Page 127 - โครงการสื่ออิเล็กทรอนิกส์เนย
P. 127
หน้าที่ 124
มูลเหตุจูงใจกับการตลาด การจูงใจผู้บริโภคเป็นหน้าที่สําคัญอย่างยิ่งของนักการตลาด สิ่งที่นักการตลาด
จะต้องค้นหาอยู่เสมอคือ สาเหตุที่จะทําให้ผู้บริโภคซื้อสินค้านั้นคืออะไร ซึ่งการจะให้ได้มาซึ่งคําตอบที่ชัดเจน
นั้นเป็นสิ่งที่กระทําได้ยาก การศึกษาเรื่องมูลเหตุจูงใจ สรุปได้ดังนี้
1.ผู้บริโภคเกิดความไม่สมดุลภายหลังการซื้อ กล่าวคือ ก่อนที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อนั้น ผู้บริโภค
ย่อมมีทางเลือกมากมาย เช่น จะซื้อกระเป๋าถือสักใบ ก็มีเเบบต่างๆ ให้เลือกมากมายเลือกเเบบได้เเล้วยังต้อง
เลือกสีอีก หากเป็นของใช้ประจําที่ราคาไม่เเพง ความรู้สึกหลังการซื้อคงไม่มีอะไรมากนัก ต่างกับสินค้าที่มี
ราคาเเพง ความรู้สึกหลังการซื้อมักเกิดภาวะไม่สมดุล หรือไม่เเน่ใจว่าการตัดสินใจซื้อครั้งนี้ถูกต้องหรือไม่
เช่น เมื่อตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียเเล้วก็มาคิดว่า “ฉันควรจะตัดสินใจซื้อยี่ห้อซัมซุงจะดีกว่า”
ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มีสูง หากปล่อยให้ผู้บริโภคเกิดภาวะไม่สมดุลอย่างนี้ ผลที่ตามมาคือ
เมื่อมีการซื้อครั้งต่อไป ผู้บริโภคจะหันไปซื้อสินค้าของคู่เเข่งขันเเทน จึงเป็นหน้าที่ของนักการตลาดที่จะต้อง
ลดภาวะความไม่สมดุลนี้ให้เบาบางวิธีการดังกล่าวคือ นักการตลาดจะต้องพยายามโฆษณาสินค้าของตนเอง
ให้มาก ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้ายี่ห้อใดมักติดตามโฆษณาของยี่ห้อนั้น โดยเนื้อความของโฆษณาย่อมเข้าข้าง
สินค้าของตน จึงมีเเต่ข้อความดีๆ ผู้บริโภคอ่านเเล้วจะคลายความกังวลลงไปได้
2. การลดการเสี่ยงภัยในการซื้อ การที่ผู้บริโภคซื้อสินค้าที่ไม่รู้จักหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านั้นไม่
เพียงพอ นับว่าเป็นการเสี่ยงมาก ยิ่งถ้าหากว่าเป็นการสั่งซื้อโดยที่ยังไม่เห็นสินค้า เช่นการสั่งซื้อทางโทรศัพท์
เป็นการซื้อที่ผู้บริโภคส่วนมากไม่กระทํา เนื่องจากไม่เห็นสินค้า จึงอาจไม่ได้สินค้าในรูปแบบหรือสีสันที่
ต้องการ วิธีการที่นักการตลาดจะกระทําเพื่อลดการเสี่ยงภัยของผู้บริโภคคือพยายามโฆษณาให้ข้อมูลที่สําคัญ
ของสินค้าให้มาก โดยผ่านสื่อต่างๆ อย่างทั่วถึง เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักสินค้ามากขึ้น และมีบริการให้คําปรึกษา
ทางโทรศัพท์ด้วยเพื่อความมั่นใจของผู้บริโภค