Page 216 - หนังสือเรียน ภาษาไทย พท.21001
P. 216
216 | ห น า
บุคคลในสังคมแบงออกเปนหลายกลุม หลายชนชั้นตามสภาพอาชีพถิ่นที่อยูอาศัย ฯลฯ ภาษาจึงมีความ
แตกตางกันเปนระดับตามกลุมคนที่ใชภาษา เชน ถอยคําที่ใชกับพระภิกษุสงฆและพระราชวงศ อาจใช
ถอยคําอยางหนึ่ง ภาษาของนักเขียนหรือกวีที่สื่อสารถึงผูอาน ก็อาจจะใชภาษาอีกอยางหนึ่ง เปนตน
ดังนั้นผูใชภาษาจึงตองคํานึงถึงความเหมาะสมและเลือกใชใหถูกตองเหมาะสมกับกาลเทศะ และบุคคล
ในภาษาไทย จะแบงระดับของภาษาเปน 5 ระดับ คือ
2.1) ภาษาระดับพิธีการ เปนภาษาที่ใชในงานพระราชพิธีหรืองานพิธีของรัฐ
2.2) ภาษาระดับทางการ เปนภาษาที่ใชในที่ประชุมที่มีแบบแผนการบรรยาย การ
อภิปรายที่เปนทางการ เปนตน
2.3) ภาษาระดับกึ่งทางการ เปนภาษาที่ใชในการอภิปราย ประชุมกลุมในหองเรียน
การพูดทางวิทยุและโทรทัศน ขาว และบทความในหนังสือพิมพ
2.4) ภาษาระดับสนทนาทั่วไป เปนภาษาที่ใชสนทนาทั่วๆ ไป กับคนที่ไมคุนเคย
มากนัก เชน ครูพูดกับผูเรียน เปนตน
2.5) ภาษาระดับกันเอง เปนภาษาระดับที่เรียกวาระดับภาษาปาก เปนภาษาสนทนา
ของครอบครัว ในหมูเพื่อนสนิท หรือญาติพี่นอง พูดอยูในวงจํากัด
3) เรื่องของน้ําเสียงในภาษา ซึ่งเปนเรื่องที่เกี่ยวกับอารมณความรูสึกของผูสงสารที่ปรากฎ
ใหรูสึกหรือเปนรองรอยในภาษาหรือเนื้อหาที่ผูสงสารตองการจะสื่อออกมาเปนความรูสึกแฝงที่
ปรากฎในการสื่อสาร ซึ่งนักโฆษณาประชาสัมพันธตองระมัดระวังมิใหมีน้ําเสียงของภาษาออกมา
ในทางที่ไมพึงประสงค หรือสรางความรูสึกที่ไมดีแกผูฟง
4) ดานการพัฒนาบุคลิกภาพ ในบางครั้งนักโฆษณา-ประชาสัมพันธตองปรากฎตัวตอบุคคล
ทั่วไปในงานตางๆ จึงควรตองแตงกายใหสุภาพเรียบรอย เหมาะกับกาลเทศะของสถานที่และงานทั่วไป
ซึ่งจะชวยสรางความนาเชื่อถือแกผูพบเห็นไดสวนหนึ่ง
5) การพัฒนาองคความรูในตนเอง นักโฆษณา-ประชาสัมพันธ ตองหมั่นแสวงหาความรู
ติดตามขาวสารขอมูลทุกดานอยางสม่ําเสมอ เพื่อนํามาใชเปนขอมูลในการพัฒนาการโฆษณา-
ประชาสัมพันธใหนาสนใจอยูตลอดเวลา รวมทั้งตองแสวงหาความรูในดานการประเมินผล เพื่อใช
ประโยชนในการประเมินผลการปฏิบัติหนาที่ของตนเองดวยรูปแบบวิธีการตางๆ ที่จะกอใหเกิดการ
พัฒนาอาชีพใหดียิ่งขึ้น
แหลงที่ควรศึกษาเพิ่มเติม
แหลงที่ควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มพูนความรูในอาชีพนี้ ไดแก
1) สถาบันฝกอบรมของเอกชน ซึ่งผูเรียนสามารถหาขอมูลรายชื่อไดจากอินเตอรเน็ต