Page 191 - ตามรอยพระศาสดา
P. 191
190
จิตที่ฟอกแล้วด้วยศีล สมาธิ และปัญญา
ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งปวง
“อันว่าจิตนี้เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสอยู่โดยปกติ แต่เศร้าหมองไป
เพราะคลุกเคล้าด้วยกิเลสนานาชนิด ศีล สมาธิ และปัญญา เป็นเครื่องฟอกจิต
ให้ขาวสะอาดดังเดิม จิตที่ฟอกแล้วด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมหลุด
พ้นจากอาสวะทั้งปวง”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! บุคคลผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วจากอาสวะ ย่อม
พบกับปีติปราโมทย์อันใหญ่หลวง รู้สึกตนว่าได้พบขุมทรัพย์มหึมา หาอะไร
เปรียบมิได้ อิ่มอาบซาบซ่านด้วยธรรม ตนของตนเองนั่นแลเป็นผู้รู้ว่า บัดนี้
กิเลสนุสัยต่างๆ ได้สิ้นไปแล้ว ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว เหมือนบุคคลผู้ตัดแขน
ขาด ย่อมรู้ด้วยตนเองว่า บัดนี้แขนของตนได้ขาดแล้ว”
มรรคมีองค์แปด
เป็นทางประเสริฐที่สุดที่จะท�าให้ทุกข์สิ้นไป
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! บรรดาทางทั้งหลาย มรรคมีองค์แปด
ประเสริฐที่สุด บรรดาบททั้งหลาย บทสี่คืออริยสัจประเสริฐที่สุด บรรดา
ธรรมทั้งหลาย วิราคะ คือการปราศจากความก�าหนัดยินดีประเสริฐที่สุด
บรรดาสัตว์สองเท้า พระตถาคตเจ้าผู้มีจักษุประเสริฐที่สุด มรรคมีองค์แปด
นี่แลเป็นไปเพื่อทัศนะอันบริสุทธิ์ หาใช่ทางอื่นไม่ เธอทั้งหลายจงเดินไป
ตามทางมรรคมีองค์แปดนี้ อันเป็นทางที่ท�ามารให้หลงติดตามมิได้ เธอ
ทั้งหลายจงตั้งใจปฏิบัติเพื่อท�าทุกข์ให้สิ้นไป ความเพียรพยายาม
ตามรอยพระศาสดา