Page 192 - ตามรอยพระศาสดา
P. 192
191
เธอทั้งหลายต้องท�าเอง ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอกทางเท่านั้น เมื่อปฏิบัติตน
ดังนี้ พวกเธอจักพ้นจากมารและบ่วงแห่งมาร”
ความทุกข์ทั้งมวลมีมูลรากมาจากตัณหาอุปาทาน
และความยึดมั่นว่าเป็นเรา
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ความทุกข์ทั้งมวลมีมูลรากมาจากตัณหา
อุปาทาน ความทะยานอยากดิ้นรน และความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเราเป็น
ของเรา รวมถึงความเพลินใจในอารมณ์ต่าง ๆ สิ่งที่เข้าไปเกาะเกี่ยวยึดถือไว้
โดยความเป็นของตน ที่จะไม่ก่อทุกข์ก่อโทษให้นั้น เป็นไม่มี หาไม่ได้ใน
โลกนี้ เมื่อใดบุคคลมาเห็น สักแต่ว่าได้เห็น ฟังสักแต่ว่าได้ฟัง รู้สักแต่ว่า
ได้รู้ เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ เพียงสักว่าไม่หลงใหลพัวพันมัวเมา เมื่อนั้น
จิตก็จะว่างจากความยึดถือต่าง ๆ ปลอดโปร่งแจ่มใสเบิกบานอยู่”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! เธอจงมองดูโลกนี้โดยความเป็นของว่าง
เปล่า มีสติอยู่ทุกเมื่อถอนอัตตานุทิฏฐิ คือ ความยึดมั่นถือมั่นเรื่องตัวตน
เสีย ด้วยประการฉะนี้ เธอจะเบาสบาย คลายทุกข์ คลายกังวล ไม่มี
ความสุขใดยิ่งไปกว่าการปล่อยวางและการส�ารวมตนอยู่ในธรรม”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ไม่มีความสุขใดเสมอด้วยความสงบ ความสุข
ชนิดนี้สามารถหาได้ในตัวเรานี้เอง ตราบใดที่มนุษย์ยังวิ่งวุ่นแสวงหา
ความสุขจากที่อื่น เขาจะไม่พบความสุขที่แท้จริงเลย มนุษย์ได้สรรค์สร้าง
สิ่งต่าง ๆ ขึ้นไว้ เพื่อให้ตัวเองวิ่งตาม แต่ก็ตามไม่เคยทัน การแสวงหาความสุข
โดยปล่อยใจให้ไหลเลื่อนไปตามอารมณ์ที่ปรารถนานั้น เป็นการลงทุน
ตามรอยพระศาสดา