Page 225 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 225
ก็อยู่ที่กายเรียกว่า “รูปธรรม” ธรรมอยู่ที่ไหนอยู่ที่ใจ เรียกว่า “นามธรรม” เห็นไหม พระธรรม
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าก็ย่อมาอยู่ที่รูปธรรมกับนามธรรมนั่นเอง”
เพราะฉะนั้น รูปธรรมก็คือร่างกายของเรา จัดกายของเราให้ดูดี อะไรมันบกพร่อง อะไรต้อง
เพิ่มเติม เช่น เราทานข้าว ก็เพิ่มเติมอาหาร เติมลมก็หายใจเข้าหายใจออก เติมไฟก็ทำให้ร่างกาย
มันอบอุ่นเติมลงไป ก็ทำให้ร่างกายมันฮึกเหิม เราจะสวดมนต์ นั่งสมาธิไม่ทำให้จิตใจห่อเหี่ยว ไม่
ท้อแท้ ส่วนน้ำก็เติมอยู่เรื่อย ๆ อย่างนี้เรียกว่าเติมดิน น้ำ ลม ไฟ เติมเพื่อไม่ให้มันบกพร่องมาก ถ้า
มันบกพร่องมา ร่างกายก็ทนไม่ไหว มันก็ทรุดลงไปเรื่อย ๆ ใจมันห่อเหี่ยวใจ มันหดหู่ ท้อแท้ใจ มัน
สิ้นหวัง วันนี้ก็เติมด้วยการสวดมนต์เติมด้วยการนั่งสมาธิ เติมด้วยการเดินจงกรม ถ้าเติมได้อย่างนี้
นี่แหละคือปัญญามาแยกแยะร่างกายของเรามันทรุดโทรม ใจมันก็ทรุดโทรมนะ เราจึงต้องมาเติม
อยู่เรื่อย ๆ ต้องการให้ใจมันสูงขึ้น ก็ต้องเติมมันก็จะลดลงไป
คุณค่าของจิตอยู่ที่การเติมสิ่งดี ๆ เข้าไป คุณค่าของร่างกายที่มันขาดวิตามิน โปรตีน ก็ต้อง
บำรุงมันไปเติมใจ มีมันขาดก็ต้องเติมกำลังใจที่ดีก็ต้องเติม การเติมบ่อย ๆ จะทำให้ร่างกายเรา
เข้มแข็ง ใจเราเข้มแข็ง เมื่อใจมันเข้มแข็งดี ก็ยังไม่ถือว่าที่สุด การบรรลุเป็นพระอรหันต์นั่นแหละ
คือที่สุด กายก็ไม่ต้องเติม ใจก็ไม่ต้องเติมแล้ว หมายถึงดับทั้งรูปขันธ์คือดับทั้งสังขาร เหลือแต่
วิญญาณคือจิต เหลือแต่ผู้รู้ ถ้าหากว่าเป็นยังงั้นได้ ก็ไม่ต้องเติมอีกแล้ว เพราะว่ามันสิ้นสุดแล้ว แต่
ถ้ายังเป็นพระอรหันต์ยังมีธาตุขันธ์อยู่ พระอรหันต์ทั้งหลายท่านก็เหมือนกัน พักผ่อนเหมือนกัน
ไม่ใช่ท่านไม่พัก ทานข้าวเหมือนกัน แต่ว่าท่านครองธาตุขันธ์ให้มันเป็นไปตามวาระของมัน ไม่มี
พระอรหันต์องค์ใดฆ่าตัวตาย ไม่มีเด็ดขาด เพราะฉะนั้น พระอรหันต์จะไม่ฆ่าตัวตาย ด้วยเหตุนี้การ
ปฏิบัติธรรมของเราก็ต้องอาศัยการทำบ่อย ๆ สมาธิสัญจรมีการจัดทุกเดือน ขอให้ทุกท่านได้มาเข้า
ร่วมปฏิบัติธรรมสัญจรกับวัดเทพเจติยาจารย์ตลอดไป สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
๒๒๕