Page 228 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 228

ธรรมะบรรยาย

                 ๐๙๒                                              ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม

                 ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๔



                     สวัสดีทุกท่าน วันนี้เป็นวันแรกของสมาธิสัญจรออนไลน์ ครั้งที่ ๒ ท่านทั้งหลายได้เข้ามาร่วม

                                                                               ่
                                       ็
               เมื่อเช้านี้ ๕๐๐ คน ก็เปนที่น่าภาคภูมิใจว่า ท่านทั้งหลายได้เข้ามารวมสมาธิสัญจรออนไลน์ เป็น
               การสร้างอริยทรัพย์ขึ้นสูงขึ้นอีกนิดหนึ่ง คำว่า “สูง” หมายความว่า ปกติเราก็สวดมนต์เย็นทุก ๆ วัน

               ยังไม่ได้มีการรับศีล การรับศีลก็มีอยู่ ๒ ช่วง เช้านี้ ๙.๓๐ น. ท่านใดอยากจะทราบข้อมูลว่า พระ

                                                                                      ื
               อาจารย์ได้พูดอะไรไปบ้าง ก็อยากให้ย้อนหลังไปอ่านดูหรือว่าไปฟังในยูทูปหรอที่เฟชบุ๊ก แต่ว่าช่วง
               ค่ำนี้จะไม่พูดขนาดนั้น เนื่องจากเวลามันจำกัด ก็อยากให้ท่านทั้งหลายย้อนไปดูในยูทูปหรือเฟชบุ๊ก

                                                                                                        ้
                                                                                       ั
               ของวัดเทพเจติยาจารย์ ที่ท่านแนะนำเรื่องสมาธิของพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยงค์ สิรินฺธโร หรือ เจา
               ประคุณ  สมเด็จพระญาณวชิโรดม  ท่านเอาสมาธิขั้นพื้นฐานมาแนะนำให้ท่านทั้งหลาย  นั่นคือ

               “หลักสูตรครูสมาธิ”

                     ท่านบอกว่า  “ครูสมาธิ”  หมายถึง  เราเห็นครูสอนตัวเอง  ให้รู้จักทำสมาธิท่านว่าอย่างนี้

               เมื่อก่อนคนไม่เคยรู้การเดินจงกรม โยมทั้งหลายก็ไม่ได้ทำกัน รักษาศีล เดินจงกรม โยมทั้งหลายก็

               ไม่ได้ทำกัน หลวงพ่อมาสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ให้โยมได้เรียนรู้ได้รู้จักสอนตัวเองว่า การทำสมาธิมี

               ดีอย่างไรและจุดประสงค์ของการทำสมาธิคืออะไร หลวงพ่อก็บอกให้หมด เช่น จุดประสงค์ของการ

               ทำสมาธิก็คือ “การสะสมพลังจิต” สะสมได้เพราะพลังจิตมีพลังบวกกับพลังลบ อย่างพลังลบ เราก็

               สะสมความเบื่อ ความเซ็ง ความขี้เกียจ ความหงุดหงิด ความน้อยใจ ความเสียใจ ความอิจฉา และ

               ความพยาบาทจองเวร  เราสะสมทุกวัน  สะสมได้อย่างไร  มองคนอื่นเอา  ออกอาการแบบนี้ก็คือ

               สะสมแล้ว เห็นคนไหนทำดีเกินหน้าเกินตาก็อิจฉาเขา ทำเอาหน้าหรือทำไปอย่างนั้นแหละ หาเรื่อง

               ไปป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณนั้น เพื่อที่จะขัดขวางเขา

                     อันนี้  เราน่าจะอนุโมทนาต่อบุคคลนั้น  ไม่ใช่จะหาวิธีมาขัดขวางเขาและก็คุยกัน  เป็นการ

                                                                                                  ้
               รบกวนสมาธิของคนอื่นให้เขาทำไม่ได้ อันนี้อิจฉาเขา ทำไม่ได้แต่ก็ยังอิจฉา พวกนี้ทำให้สรางจุดดำ
               เรียกว่าทำให้ “พลังลบ”เกิดมากยิ่งขึ้น ก็ต้องปล่อยเขาไป เราอย่าไปทำอย่างเขา เราก็มาสร้างพลัง

               บวก เพราะฉะนั้น จึงมาเน้นเรื่องสัมมาสมาธ คือ “สมาธิที่ถูกทาง” สร้างพลังจากข้างในให้เกิดขึ้น
                                                         ิ
               ขี้เกียจบ้างก็ไม่เป็นไร  ขี้เกียจก็ถือว่าเป็นมารมาขัดขวาง  เราต้องคิดว่าเราต้องกำจัดมารก็คือขยันสู้



                                                          ๒๒๘
   223   224   225   226   227   228   229   230   231   232   233