Page 35 - Education 4.0 : ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์
P. 35

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์  27
                                                           กับแนวคิดและการขับเคลื่อนการศึกษา 4.0


                              รองศาสตราจารย ดร.ศิริเดช สุชีวะ
                คณบดีคณะครุศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย
                ไดกลาวตอนรับวิทยากรและผูเขารวมงานเสวนา
                พรอมกับปาฐกถานําการเสวนาในประเด็น “การวิจัย
                ยุคการศึกษา  4.0 มีใจความสําคัญ ดังนี้



                       หากพูดถึงความรูชายแดนทางการศึกษา
                มักปรากฏอยูที่งานวิจัยทางการศึกษา ซึ่งเราอาจจะ
                มองไดวาวิจัยทางการศึกษาก็มี 4 ยุคเหมือนกัน
                ในยุคแรกๆ ของการวิจัยทางการศึกษา คือการวิจัย
                ที่มุงจะเปนการบรรยาย สภาพของปรากฏการณ
                เนื้อเรื่องของงาน Survey  และงานวิจัยเชิงบรรยาย
                หรือพรรณนา (Descriptive research) ซึ่งสิ่งที่ได
                ก็จะเปนความรูเกี่ยวกับปรากฏการณนั้น หรือ สภาพ ขนาด และความรุนแรงของปญหา
                ที่เกิดขึ้นของแตละเรื่อง ซึ่งการใชงานในองคความรูในระดับนี้ก็ถือวาใชงานไดระดับหนึ่ง
                ที่จะชวยทําใหเราเขาใจปรากฏการณมากยิ่งขึ้น
                       มาถึงยุคที่  2 ของความนิยมของการทําวิจัย เราเคลื่อนเขามาสูการวิจัยที่จะ
                อธิบายความสัมพันธระหวางตัวแปร ภายใตปรากฏการณนั้น  โดยงานวิจัยจะเนนรูปแบบ

                ของ การวิจัยกึ่งทดลอง Quasi Experimental Research หรือ การวิจัยเชิงทดลอง
                (Experimental research) ซึ่งเปนงานวิจัยที่แสดงความสัมพันธของชุดตัวแปร
                หนึ่งที่สงผลตอชุดตัวแปรอีกชุดหนึ่ง
                       ในยุคที่  3 ซึ่งหมายถึงปจจุบันนี้ งานวิจัยทางการศึกษาจํานวนมากพยายาม
                ที่จะโยนโจทยของวิจัยไปสูโจทยของสังคมจริง ๆ วาตอนนี้สังคมตองการคําตอบเรื่องอะไร
                โดยเฉพาะสังคมทางการศึกษา แตทวาคําตอบที่ไดมาจากการวิจัยทางการศึกษาในยุคนี้
                เปนคําตอบที่คอนขางกวาง งานวิจัยจํานวนมากพยายามที่จะกําหนดแบบจําลองหรือโมเดลตาง
                ๆ เพื่อจัดการกับปญหานั้น ๆ แตสวนมากคําตอบที่ไดมักจะอยูในรูปของ  Generic  Model

                ที่ใชไดกวาง ๆ และสวนมากพบวาใชไมคอยไดผลเทาที่ควร
                       จนมาถึงยุคสุดท้ายนี้ (ยุคที่ 4) งานวิจัยทางการศึกษาคงตองเปลี่ยนโฉมใหเปน
                งานวิจัยที่ตอบโจทยไดตรงประเด็น และคําตอบของงานวิจัยนั้นมันตองเปน Innovation
                ที่หมายถึง วิธีการแกปญหาที่ไดผล ซึ่งอาจจะอยูในรูปของเครื่องมือ กระบวนการ หรือ
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40