Page 61 - โลกของหนูแหวน
P. 61

รําพึงถึงตัว



                     หนูแหวนนุงผาซิ่นกระโจมอกเดินฝาความหนาวเย็นไปที่ลําคลอง ซึ่งไหลเอื่อยอยูชั่วนาตาป เธอจะไป

              อาบน้ํา มันเปนความเคยชิน ความจําเปนหรือความตองการ เธอตอบไมได แตเธอก็อาบน้ําที่ลําคลองนี้ทุกเชา
              วันนี้อากาศเย็นนัก หนูแหวนจึงรีรออยู ชะโงกหนาไปเห็นเงาของเธอใสแจวอยูในน้ํา เธอจึงเพิ่งสังเกตวาตัวเธอนั้น
              โตขึ้น เธออาบน้ําที่ลําคลองนี้มาแตเล็ก ทีแรก ๆ แมอาบให เดี๋ยวนี้เธออาบเองไดแลว

                     “ฉันโตขึ้นบางไหมจะ” หนูแหวนถามลําคลอง

                     “โตขึ้นเหมือนกันจะ” ลําคลองตอบ กวามันจะพูดประโยคนี้จบก็กินเวลาถึงสิบนาที เพราะวามันไหลชา
              เหลือทน อืดอาดอยางนี้ หนูแหวนจึงไมคอยอยากจะพูดกับมันมากนักดอก

                     เธอนิ่งดูความเปลี่ยนแปลงชา ๆ อันเปนที่ที่เธอเกิดและเติบโตมา ไมคอยมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ และเมื่ออะไร
              เกิดขึ้นแลว อยางเชนดนตรีจากกรุงมาเลนที่งานวัด ชาวบานก็จะทรงจํามันไดเปนเวลานานนับเดือนกวาจะลืม

              และเมื่อไมมีอะไรเกิดขึ้น นาน ๆ เขามันก็จะกลายเปนยุคทอง ยุคอันแสนสนุกที่เลาสืบกันมาอยางไมรูจักเบื่อ
                     นึกถึงงาน หัวใจของหนูแหวนก็เตนแรง อีกไมกี่วันพี่บัวผันเขาก็จะแตงงานไปแลว เธอกมหนาลงดูเงาอีก
              ครั้งหนึ่งแลวก็ถอนใจวา ฮึ ใครเขาจะมาแตงกับเรา หนูแหวนไมรูวาแตงงานกินความหมายอะไรบาง เธอรูแตวา

              เมื่อคนโตเขาทําอะไรเธอก็อยากจะทําบาง
                     หนูแหวนเอาเทาแหยลงไปในน้ําแลวชักกลับ บรื๊อว หนาวเหลือทน เธอกลั้นใจแหยเทาลงไปอีก แลว

              หยอนตัวลง วิบป ในที่สุดก็ทําไดสําเร็จ เธอดําผุดดําวาย สงเสียงเอะอะ กระทุมน้ําเปนฟอง จนกระทั่งหอยโขงตัว
              หนึ่งเปดปากขึ้นอยางเกียจคราน พูดวา
                     “เงียบ ๆ หนอยเถิด ฉันยังอยากจะนอนตออีก”

                     “ตายละ เธอนอนสายอยางนี้ทุกวันหรือ” หนูแหวนอุทาน “แมเธอไมตีเอาบางหรือ”

                     “ฉันเปนแมหอยโขง ไมมีใครมาตีฉัน” หอยโขงตอบ

                     “เธอโตแลวก็ตองรูจักรับผิดชอบเลี้ยงดูผูอื่น” หนูแหวนวา

                     “ฉันไมเห็นตองเลี้ยงใคร ฉันไมเห็นวาฉันจะโตขึ้นอยางไร ฉันจะนอนดีกวา” วาแลวหอยโขงก็เปดปากหาว
              หวอด “ฉันอยูของฉันไปวันหนึ่ง ๆ เทานั้นเอง”

                     หนูแหวนหมดสนุกเพราะคําพูดของเจาหอยโขง เธอขึ้นจากน้ําไปผลัดผาเงียบ ๆ เดินไปตามชายทุงที่โลง
              ราบเพราะเขาเกี่ยวขาวไปหมดแลว ไมชาแผนดินก็แตกระแหงเพราะความรอน ตอจากนั้นฝนก็ตก ชาวบานก็

              เตรียมทํานาอีกครั้ง ซ้ํากันไปเชนนี้ทุกป จนเหมือนวาชีวิตมีเพียงปเดียวสองป ปูของหนูแหวนเปนชาวนา พอของ
              หนูแหวนก็เปนชาวนา ตัวหนูแหวนเองก็คงเปนชาวนาอีกเชนกัน
                     หนูแหวนเดินไปไดหนอยนึงก็ไดพบเพื่อนมากมาย เปนเตานา ผีเสื้อ ตนตอยติ่ง ตัวบุง ไสเดือน ดอก

              พลับพลึง เธอหยุดทักทาย เลนกับมันอยางสนุกสนาน โลกของเธอก็รื่นเริงสดใสเหมือนเคย หนูแหวนวิ่งกระโดด
              โลดเตนไปตามคันนา เที่ยวถามโนนซักนี่ ไมเคยอยูที่ใดนาน ๆ ไมเคยคิดถึงอะไรแนวแน หนูแหวนก็ไมรูตัวสนใจ

              อะไร ชอบอยางไหนแน จะใหรูไดอยางไร ในเมื่อของมันชางดูขัดแยงกันไปหมด อีแตนบอกวามี 4 ขาดี ไกตอกวา
              ตองมี 2 ขา นกกระจิบที่ริมรั้วชอบมีตัวเล็ก ๆ ถามีตัวใหญ กวาจะจับแมลงกินอิ่มก็เหนื่อยตาย สวนเจานกกระยาง


                                                                                                              61
   56   57   58   59   60   61   62   63   64