Page 48 - BBLP ejournal2018.docx
P. 48
วารสารเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์
เมื่อ H = H ⨂I เมื่อH เมทริกซ์ความแปรปรวนของกลุ่มการจัดการที่ใช้ใน
0
0
การเปรียบเทียบ (Ugarte et al., 1991) และ ⨂ เป็นการค านวณแบบ
direct product ระหว่างเมทริกซ์ (Searle, 1982)
G = G ⨂A เมื่อ G เป็นเมทริกซ์ความแปรปรวนร่วมทางพันธุกรรมแบบ
s
s
s
บวกสะสม, A เป็นเมทริกซ์ความสัมพันธ์ทางเครือญาติของสัตว์ทุกตัวใน
ประชากร (Henderson, 1975)
R = R ⨂I เมื่อ R เมทริกซ์ความแปรปรวนของความคลาดเคลื่อนสุ่ม
0
0
ค่าองค์ประกอบความแปรปรวนส าหรับลักษณะ M305 ของโคนมในแต่ละกลุ่มการจัดการจะถูก
ประมาณค่าด้วยวิธี Restricted Maximum Likelihood procedure (REML) ที่ใช้กลวิธีการค านวณค่าแบบ
Average Information (AI) โดยโปรแกรม ASREML (Gilmour et al., 2001) จากนั้นองค์ประกอบความ
2
แปรปรวนที่ประมาณค่าได้จะถูกน ามาค านวณค่าอัตราพันธุกรรม (heritability; h ) และสหสัมพันธ์ทาง
พันธุกรรม (genetic correlation; r g) ค่าความสามารถทางพันธุกรรม (Estimated Breeding Value; EBV)
สามารถค านวณค่าได้จากผลรวมระหว่างค่าเฉลี่ยของค่าความสามารถทางพันธุกรรมของโคนมในกลุ่ม
พันธุกรรมเดียวกัน และค่าเบี่ยงเบนของความสามารถทางพันธุกรรมของโคนมที่ถูกพิจารณา (Westell et
al., 1988)
การพิจารณาอิทธิพลร่วมระหว่างพันธุกรรมกับสิ่งแวดล้อมจะพิจารณาจากค่าสหสัมพันธ์ทาง
พันธุกรรมส าหรับ M305 ของแต่ละกลุ่มการจัดการ จากนั้นจึงใช้ค่าสหสัมพันธ์ระหว่างล าดับของสเปียร์แมน
(Spearman’s rank-order correlation coefficient; Page, 1963) ในการเปรียบเทียบล าดับของพ่อพันธุ์ใน
แต่ละกลุ่มการจัดการ
ผลการทดลองและวิจารณ์
ค่าอัตราพันธุกรรมส าหรับลักษณะ M305 (Table 2) ของโคนมที่ได้รับการเลี้ยงดูในพื้นที่ราบลุ่ม
(FP) ของภาคตะวันตกมีค่า 0.195 ± 0.034 ขณะที่ในพื้นที่ราบเชิงเขา (PM) มีค่า 0.080 ± 0.038 และใน
พื้นที่ชายฝั่งทะเล (CP) มีค่า 0.003 ± 0.031 และเมื่อพิจารณาตามรูปแบบการจัดการเลี้ยงดู พบว่า ค่าอัตรา
พันธุกรรมส าหรับลักษณะ M305 ของโคนมที่ได้รับการเลี้ยงแบบปล่อย (FS) มีค่า 0.090 ± 0.041 ส่วนการ
เลี้ยงแบบผูกยืนโรง (TS) มีค่า 0.136 ± 0.060 ทั้งนี้ค่าอัตราพันธุกรรมที่มีค่าแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ และ
รูปแบบการจัดการเลี้ยงดูของภาคตะวันตก ชี้ให้เห็นถึง ความแตกต่างกันของความผันแปรทางพันธุกรรม
ของพ่อพันธุ์โคนมที่ถูกน ามาใช้ประโยชน์ในแต่ละพื้นที่ และกลุ่มรูปแบบการจัดการเลี้ยงดู (Table 2) ซึ่ง
เมื่อน ามาพิจารณาสัดส่วนความผันแปรทางพันธุกรรมต่อความผันแปรของลักษณะปรากฏของโคนมในแต่
ละพื้นที่ และกลุ่มรูปแบบการจัดการเลี้ยงดู จึงส่งผลให้มีค่าอัตราพันธุกรรมที่แตกต่างกัน
38