Page 95 - Binder1
P. 95

๗๘


                                  ๖.6  การเรียบเรียงการสอน


                                       การสอนที่จะทำใหนักเรียนประทับใจนั้น ครูตองอาศัยลีลาการสอนที่นาสนใจ ดังนั้นใน
                        การเตรียมการสอนจึงตองมีการเรียบเรียงการสอนใหเปนระเบียบ มี 5 ขั้นตอน  คือ   มีการ
                        ปฏิสันถารกับนักเรียน   การนำเขาสูบทเรียน  การพูดตัวเนื้อหาสาระ  การกลาวสรุปบทเรียนและ
                        การกลาวคำอำลา ดังนี้


                                  ๑.  การปฏิสันถารกับนักเรียน
                                     หลักการสอนในชั้นเรียนมีอยูขอหนึ่ง คือ กอนที่จะสอนถึงเนื้อหาที่ผูสอนเตรียมมา

                        ครูจำเปนตองกลาวคำปฏิสันถารกับนักเรียนเสียกอน คำปฏิสันถารหรือการทักทายนักเรียนนี้อาจ
                        แบงออกเปน ๒ ชนิด  ดังนี้  คำปฏิสันถารชนิดที่เปนพิธีการ มักจะใชในพิธีเปดโครงการ  เปดการ
                        อบรม  สัมมนา เชน พิธีแจกเกียรติบัตร  วุฒิบัตร ในโอกาสเชนนี้ คำปฏิสันถารจะเรียกเฉพาะ
                        ตำแหนงของผูที่มารวมพิธี คำที่แสดงความรูสึก เชน คำวา “เคารพ” “นับถือ” “ที่รัก” เปนตน จะ
                        ไมนิยมใช ตัวอยางเชน ในพิธีเปดโครงการรำลึกสุนทรภูเชิดชูภาษาไทย  ผูที่เปนประธานจะกลาว

                        ปฏิสันถารวา “ทานรองผูอำนวยการ  คณาจารย และนักเรียนทุกคน” หลังจากคำปฏิสันถารแลว
                        มักจะติดตามดวยประโยคที่วา “กระผมหรือดิฉัน” รูสึกยินดีและภาคภูมิใจ ที่ไดมาเปดโครงการหรือ
                        ใหโอวาทในวันนี้   คำปฏิสันถารชนิดที่ไมเปนพิธีการ เชน การสอน  การประชุมภายในชั้นเรียน การ

                        อภิปราย คำปฏิสันถารในโอกาสเชนนี้มักมีคำที่แสดงความรูสึกดวย เชน  “สวัสดีนักเรียนทุกคน”
                        “สวัสดีนักเรียนที่รักทุกคน”  ในกรณีที่มีสามเณรเปนนักเรียนดวย  ครูจะกลาวปฏิสันถารกับ
                        สามเณรกอนแลวจึงกลาวกับนักเรียนทั่วไป คำปฏิสันถารสำหรับสามเณร คือ “นมัสการ สามเณร”
                        การใชสรรพนามแทนตัวครูนั้น มีขอพิจารณา คือ ถาเปนการพูดแบบพิธีการครูจะใชสรรพนามแทน
                        ตัวเองดังนี้  ผูชายใชวา “ผม” ผูหญิงใชวา“ดิฉัน” ถาเปนการพูดที่ไมเปนพิธีการ ใชสรรพนามแทน

                        ตัวเองวา “ครูหรืออาจารย” ทั้งผูชายและผูหญิง  สำหรับคำสรรพนามที่ใชเรียกนักเรียนนั้น ควรจะ
                        เปนคำที่ยกยอง ใหเกียรติ เมตตา หรือวาเปนฝาย เปนพวกเดียวกันกับนักเรียน  เชน คำวา นักเรียน
                        ที่นารัก  นักเรียนที่รัก  เรา  พวกเรา  คุณ เปนตน

                                  ๒.  การนำเขาสูบทเรียนหรืออารัมภบท
                                    การนำเขาสูบทเรียน คือ การเกริ่นนำเพื่อนำเขาสูเรื่องที่ครูจะพูด   เปนการเรา
                        ความสนใจของนักเรียนและกอใหเกิดความกระตือรือรนที่จะเรียนตอไปดวยความตั้งใจ การนำเขาสู
                        บทเรียนมีลักษณะ ๓ ประการ ดังนี้   การเราความสนใจ  เชน  การตั้งคำถาม  การเลนปริศนาคำ

                        ทาย  เริ่มดวยสำนวน  สุภาษิตคำพังเพย  บทกลอน  ขอความขำขัน   นากลัว หรือตื่นเตนตางๆ
                        การใหความกระจาง คือ การนำเขาสูบทเรียนดวยการใหความกระจางแกนักเรียน เปนการโยงเขาสู
                        บทเรียนอยางทันใจนักเรียน เชน  เริ่มดวยการชี้จุดสำคัญของเรื่องที่จะพูด  เริ่มดวยการกลาว
                        ความสำคัญของเรื่องที่จะสอนนั้นๆ  และเริ่มดวยการกลาวกวางๆ กอน แลวนำสูจุดสำคัญของเรื่อง

                                          สรางความพอใจ  คือ วิธีการที่ทำใหนักเรียนรูสึกพอใจ  มีความกระตือรือรนในการ
                        เรียน ตองการมีสวนรวมในกิจกรรมการเรียน เชน  เริ่มดวยการกลาวยกยองในความสามารถของ
                        นักเรียน   เริ่มดวยการกลาวใหผูเรียนมีความมั่นใจในตัวเอง  เริ่มดวยการใหรางวัล หรือสัญญาจะให
                        รางวัล
   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100