Page 81 - TH Edition Ver3
P. 81

บทที่ 3



                                              พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
                                                  พระไตรปิฎกฉบับแปลเล่ม 10

                                                         พระสูตรเล่ม 2

                      บทน ำ


                                                                                                        ึ
                                                                                           ุ
                              ดังที่ได้กล่ำวมำแล้วในบทต้นๆ ถึงควำมส ำคัญที่พระภิกษุ สำมเณร และพทธศำสนิกชนพง
                                                        ั
                                                                               ุ
                      ศึกษำและท ำควำมเข้ำใจพระไตรปิฎก อนเป็นคัมภีร์ส ำคัญทำงพระพทธศำสนำ ถึงแม้ว่ำในชั้นต้น จะ
                      มุ่งหมำยเพอให้พระไตรปิฎกได้มีกำรท ำสังคำยนำให้พระธรรมวินัยคงอยู่ โดยก ำหนดว่ำ เป็นกำร
                                ื่
                      รวบรวมค ำสั่งสอนของพระสัมมำสัมพทธเจ้ำ โดยจัดเป็นพระไตรปิฎก คือพระวินัย พระสุตตันตปิฎก
                                                      ุ
                                                                                                    ุ
                      และพระอภิธรรมปิฎก ที่ท่องจ ำกันต่อมำในรูปแบบมุขปำฐะที่เป็นภำษำบำลี คือภำษำที่พระพทธเจ้ำ
                      ทรงใช้ในกำรเทศนำสั่งสอน


                              อย่ำงไรก็ตำมในกำรเรียนรู้พระไตรปิฎก คือกำรท ำควำมเข้ำใจถ่องแท้ถึงพระธรรมวินัยที่
                      ปรำกฏในพระไตรปิฎกนั้น ประกำรแรก คือผู้ที่จะศึกษำจ ำเป็นจะต้องรู้ควำมหมำยของภำษำบำลี

                      (“ภำษำมคธ” ตำมที่เรียกกัน)  ให้ถูกต้องเสียก่อน ต่อจำกนั้นจึงจะเรียนรู้ให้แตกฉำนและเชี่ยวชำญ

                      ด้วยกำรเรียน “อรรถกถำ” คือคัมภีร์ (ต ำรำ) อธิบำยควำมหมำยของพระไตรปิฎกนั้น ๆ ซึ่งในชั้นแรก
                      กำรเรียนรู้พระไตรปิฎก ไม่ว่ำจะเป็นกำรท่องจ ำพระไตรปิฎกภำษำบำลี หรือกำรอธิบำยควำมที่เป็น

                                                                               ุ
                      อรรถกถำ ที่เป็นภำษำบำลี ยังยึดเป็นองค์ควำมรู้ส ำหรับภิกษุสงฆ์ในพทธศำสนำ และต่อมำกำรท่องจ ำ
                                                                      ั
                                                                                                       ุ
                      พระไตรปิฎกภำษำบำลี ได้มีกำรจำรึกลงเป็นลำยลักษณ์อกษร เป็นภำพต่ำง ๆ ด้วยควำมหวังว่ำพทธ
                                                      ุ
                      บริษัทอนประกอบด้วยภิกษุ ภิกษุณี อบำสก อบำสิกำ และพทธศำสนิกชนที่อยู่ในประเทศต่ำง ๆ จะ
                                                             ุ
                             ั
                                                                         ุ
                                                                                                   ิ
                                                                                             ั
                      ได้มีพระไตรปิฎกที่จำรึกเป็นลำยลักษณ์อกษรในภำษำของตน เช่นพระไตรปิฎกบำลีอกขระฮนดี (เท
                                                         ั
                      วนำครี) พระไตรปิฎกอักษรจีน พม่ำ เป็นต้น
                                                                                          ุ
                              ในส่วนของกำรแปล เพื่อให้เข้ำใจถึงควำมหมำยของศัพท์และอรรถกถำที่พทธศำสนิกชนได้
                      อำนิสงส์ที่เป็นองค์ควำมรู้ ในประเทศไทยจะเน้นกำรถ่ำยทอดโดยพระภิกษุสำมเณร ในกำรเทศนำสั่ง

                      สอนพุทธศำสนิกชน ที่เป็นกำรมุ่งหวังให้เป็นคนดี มีศีลธรรมโดยกำรปฏิบัติตำมพระธรรมค ำสอนของ
                      พระพุทธเจ้ำ พุทธศำสนิกชนโดยทั่วไปจะฟังจำกพระสงฆ์ผู้เทศนำ ด้วยกำรได้ยินภำษำบำลีเป็น

                      เบื้องต้น และต่อจำกนั้นถึงเป็นค ำอธิบำยให้เข้ำใจโดยรวมถงพระธรรมที่ยกมำนั้น ๆ อย่ำงต่อเนื่อง ผล
                                                                      ึ
                      ก็คือนำนวันเข้ำ ภำยหลังกำรใกล้ชิดพระพุทธศำสนำมีน้อยลง เนื่องจำกกำรขำดควำมเข้ำใจใน

                      ควำมหมำยของภำษำที่พระพทธเจ้ำทรงใช้ เทศนำสั่งสอนและบรรยำย เมื่อเกิดควำมไม่เข้ำใจ ควำม
                                              ุ
                      ศรัทธำจึงลดน้อยถอยลง ท ำให้กำรสืบสำนอำยุพระพุทธศำสนำมีแนวโน้มว่ำจะหมดไป โดยเฉพำะจำก
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86