Page 118 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 118

หน้า ๑๐๖                                                                             ส่วนที่ ๓



               และถูกเอารัดเอาเปรียบจากเพศชายหรือระบบชายเป็นใหญ่เหมือนกัน แนวคิดนี้ใช้ในสหรัฐอเมริกา

               (ยกเว้นรัฐเนวาดา) ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศญี่ปุ่น
                           ๒. แนวคิดการค้าประเวณีไม่ใช่อาชญากรรม (Decriminalization)

                             ส าหรับระบบลักษณะนี้มีแนวคิดที่ว่าในสมัยก่อนสังคมอาจถือว่าการค้าประเวณีเป็นสิ่งที่
               ผิดกฎหมาย แต่เมื่อได้มีการพิจารณาแนวทางอื่นในการรับมือกับปัญหาดังกล่าวแล้วพบว่า ควรมีการเสนอ
               ให้ยกเลิกกฎหมายที่จะจับกุมลงโทษผู้ค้าประเวณี และให้ใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่น ๆ ด าเนินการ

               กับผู้แสวงหาผลประโยชน์บังคับค้าผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกันให้ผู้หญิงสามารถค้าประเวณีได้โดยไม่ต้องถูก
               จับกุมลงโทษ แนวคิดนี้ส่งเสริมให้หญิงค้าประเวณีไม่ถูกแสวงหาผลประโยชน์จากร่างกายของตน มีการรับรอง

               คุ้มครอง และให้สิทธิแก่ผู้ค้าประเวณีในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง มีการจัดระเบียบด้านสาธารณสุข แนวคิด
               เช่นนี้เองที่มิได้ถือว่าผู้ค้าประเวณีเป็นอาชญากรเหมือนกับอาชญากรอื่นนั้น เป็นผลให้เกิดการยกระดับ
               คุณภาพชีวิตการท างานของหญิงค้าประเวณีเป็นอย่างมาก ซึ่งประเทศที่ใช้แนวคิดลักษณะนี้ได้แก่ประเทศ

               ออสเตรเลีย (ยกเว้นรัฐวิกตอเรีย) และนิวซีแลนด์
                           ๓. แนวคิดการค้าประเวณีเป็นสิ่งถูกกฎหมาย (Legalization)

                             แนวคิดนี้ยอมรับว่าการค้าประเวณีเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย มีการก าหนดให้โสเภณีและสถาน
               บริการค้าประเวณีต้องจดทะเบียนให้เป็นกิจจะลักษณะ โดยถือว่าโสเภณีเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย
               และอนุญาตให้มีการเปิดสถานบริการ โดยมีเจ้าของของสถานบริการและแม่เล้าซึ่งเป็นตัวแทนจากรัฐให้เป็น

               ผู้ควบคุมดูแล และอนุญาตให้โสเภณีท าการค้าประเวณีในสถานบริการการค้าประเวณีที่ได้รับการจดทะเบียน
               ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งสถานประกอบการค้าประเวณีจะถูกก าหนดอยู่ในบริเวณเฉพาะห่างไกล

               จากโรงเรียน หมู่บ้าน เป็นต้น โดยภายใต้ระบบดังกล่าว จะมีการน ากฎหมายอาญา กฎหมายแรงงาน
               คุ้มครองโสเภณี รวมทั้งมีการควบคุมด้านสุขอนามัย การตรวจสุขภาพโสเภณีตามระยะเวลาที่ก าหนด

               โดยเฉพาะการป้องกันและการแพร่เชื้อโรคมาใช้ก ากับดูแลหญิงค้าบริการอีกด้วย
                             แนวคิดแบบ Legalization นี้มีประโยชน์ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ
               ทางเพศสัมพันธ์เป็นหลัก นอกจากนั้น รัฐก็ยังได้รับประโยชน์จากการจัดเก็บภาษีจากการค้าประเวณีอีกด้วย

               แนวคิดนี้อาจช่วยลดการประพฤติโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ต ารวจ และการเอารัดเอาเปรียบหญิงค้าบริการ
               โดยผู้เป็นธุระจัดหา แต่ผลที่ตามมาจากการด าเนินนโยบายในลักษณะนี้จะท าให้การค้าประเวณีกลายเป็น

               สถาบันที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งขัดต่อหลักอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติที่หลาย ๆ ประเทศเป็นภาคี
               แนวคิดนี้มีการใช้ในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ประเทศเนเธอร์แลนด์
               และประเทศเยอรมนี

                           ๔. แนวคิดยกเลิกการค้าประเวณี (Abolitionism)
                             แนวคิดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างแนวคิดการค้าประเวณีเป็นสิ่งถูกกฎหมาย (Legalization)

               และแนวคิดห้ามการค้าประเวณี (Prohibitionism) โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการขจัดการค้าประเวณีให้หมดไป
               ถือว่าการค้าประเวณีโดยตัวมันเองไม่ผิดกฎหมาย แต่กฎหมายังคงมีการลงโทษการค้าผู้หญิงและเด็ก ตลอดจน
               การเป็นธุระจัดหา โดยมีการใช้มาตรการการช่วยเหลือผู้ที่ถูกค้าและจัดการลงโทษนักค้ามนุษย์ เป็นต้น

               โดยแนวคิดดังกล่าวได้รับอิทธิพลส่วนหนึ่งจากอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการปราบปรามการค้าบุคคล
               และการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีของบุคคลอื่น (United Nations Convention for the

               Suppression of the Traffic in Persons and the Exploitation of the Prostitution of Others 1949)
   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123