Page 14 - Annal Report Ed-CMU 2019
P. 14

11

















                 อำาเภออมก๋อย ถือว่าเป็นอำาเภอหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากตัวอำาเภอเมืองของจังหวัดเชียงใหม่มาก ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวประมาณ
          3  ชั่วโมงด้วยระยะทางเกือบ  300  กิโลเมตร  การคมนาคมค่อนข้างลำาบากยิ่งเฉพาะในหน้าฝน  เนื่องจากส่วนใหญ่ยังเป็นถนนลูกรัง  ทำาให้การเดิน

          ทางค่อนข้างนาน  และมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง  ทั้งนี้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงและชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมแบบเชิงเดี่ยวมีการ
          ใช้สารเคมีในปริมาณมาก เช่นในพื้นที่ตำาบลนาเกียน ได้แก่บ้านอูตูม ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม พืชที่เพาะปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ
          ได้แก่ พริก มะเขือเทศ เป็นต้น และด้วยอุปสรรคในการเดินทางที่แม้ว่าจะอยู่ห่างจากตัวอำาเภอเพียงแค่ 30 กว่ากิโลเมตร แต่กลับใช้เวลาเกือบ 2
          ชั่วโมง  ทำาให้ชุมชนเหล่านั้นยังคงซึ่งความเป็นอยู่ไม่ต่างจากเดิมมาก  โดยมีชาวบ้านบางส่วนรวมกลุ่มในการผลิตพืชผักโดยไม่ใช้สารเคมีสำาหรับการ
          บริโภคในครัวเรือน  ซึ่งแตกต่างจากหน่วยงานในพื้นที่ที่ต้องซื้อเสบียงอาหาร  และของใช้ต่างๆ  ไปใช้ในการอยู่อาศัยในพื้นที่  โดยต้องเดินทางด้วย
          ความยากลำาบากเข้ามาในตัวอำาเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เกิดความต้องการเกิดความต้องการแก้ไขปัญหาด้านอาหาร เพื่อ
          ประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทาง  ความสะดวก  และความปลอดภัยจากอาหารที่ใช้บริโภค  จึงได้สนับสนุนชุมชนให้สร้างแหล่งอาหาร
          ปลอดภัยไว้ในชุมชนโดยชุมชนเป็นผู้ผลิตเองและหน่วยงานเป็นตลาดรองรับผลผลิต นอกจากจะได้อาหารที่ปลอดภัยแล้วยังช่วยส่งเสริมรายได้ให้แก่
          คนในชุมชน และสิ่งสำาคัญที่สุดคือ ช่วยลดผลกระทบของสารเคมีต่อสุขภาพ เพื่อป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังในอนาคตได้
                 ส่วนอำาเภอสันป่าตอง เป็นพื้นที่ไม่ห่างจากตัวอำาเภอเมืองมากนัก มีการคมนาคมที่สะดวกสบาย เป็นชุมชนกึ่งเมือง แต่ส่วนใหญ่ประชาชน
          ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  ซึ่งมีการใช้สารเคมีในปริมาณมากเพื่อให้ได้ผลผลิตตรงตามความต้องการของตลาดโดยไม่ได้คำานึงถึงผลเสียจากการใช้

          สารเคมีเหล่านั้น  ทั้งนี้  ทางพื้นที่ตำาบลทุ่งสะโตก  นำาโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลตำาลทุ่งสะโตกได้ให้ความสำาคัญของปัญหาด้านสารเคมีต่อสุขภาพ
          โดยนำาร่องปลูกพืชผักไว้บริโภคในครัวเรือน และใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารในร้านอาหาร รวมทั้งขยายผลการสร้างแหล่งอาหารปลอดภัย
          ให้ทั่วเขตรับผิดชอบ นั่นหมายถึงการกระจายในทุกหมู่บ้าน ของตำาบลทุ่งสะโตก อำาเภอสันป่าตอง พร้อมกันนั้น พบว่าชุมชนบ้านป่าจี้ หนึ่งในหมู่บ้าน
          ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของตำาบลทุ่งสะโตก ได้ให้ความสำาคัญของปัญหาด้านสารเคมีเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีชาวบ้านจำานวนมากที่มีความต้องการให้
          เกิดแนวทางในการแก้ไขปัญหาสารเคมี เพื่อลดความเสี่ยงจากการรับสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย และทำาให้สิ่งแวดล้อมปนเปือนไปด้วยสารเคมี
                 จากผลการดำาเนินงานในปี 2561 พบว่า ในอำาเภออมก๋อยมีผลการตรวจระดับสารเคมีในเลือดด้วยกระดาษทดสอบเบื้องต้นในระดับเสี่ยง
          ร้อยละ 58.7 ระดับไม่ปลอดภัยร้อยละ 10.9 และในระดับปลอดภัยร้อยละ 30.4  ส่วนอำาเภอสันป่าตอง พบว่าผลการตรวจระดับสารเคมีในเลือด
          ด้วยกระดาษทดสอบเบื้องต้นส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่เสี่ยงร้อยละ 73.3 ระดับไม่ปลอดภัยร้อยละ 6.7 และระดับปลอดภัยเพียงร้อยละ 20.0 จะเห็นว่า
          ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทั้งสองพื้นที่มีความเสี่ยงจากการรับสัมผัสสารเคมีค่อนข้างมาก จึงทำาให้กลุ่มเจ้าหน้าที่เองเกิดความตระหนัก และความต้องการ

          แก้ไขปัญหาสารเคมีอย่างจริงจัง ทำาให้เกิดการรวมกลุ่มของเจ้าที่ เพื่อวางแผน หาแนวทางแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ รวมไป
          ถึงการการติดตาม  ควบคุมการลดการใช้สารเคมีในชุมชน  ในส่วนของชาวบ้านเกิดความตระหนักมากขึ้นมีการรวมกลุ่มในการผลิตพืชผักปลอดสาร
          เคมีสำาหรับการริโภค และเหลือขายวางจำาหน่ายในพื้นที่ เกิดเป็นรายได้นำามาจุนเจือครอบครัวได้
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19