Page 254 - HiPPS Capability Development Program 2558
P. 254
ติดปีกความคิด จาก HiPPS รุ่น 11
ภาพลักษณ์ของสถานศึกษาและผู้เรียน ประมาณ 320 คนต่อประชากร 1 ล้านคน
นอกจากนี้ ประเทศไทยประสบปัญหา โดยหากเปรียบเทียบสัดส่วนกันแล้ว ถือว่ามี
ความไม่สอดคล้องของคุณสมบัติของแรงงานกับ จ านวนนักวิจัยต่างกันถึง 15 เท่าตัว
ความต้องการของสถานประกอบการ รวมถึง
ขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะทาง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่างเทคนิค และช่างฝีมือ จากแนวทางการด าเนินการของประเทศ
ชั้นสูง โดยสัดส่วนของผู้เรียนอาชีวศึกษาเทียบ สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งถือเป็นประเทศที่มี
กับผู้เรียนสายสามัญ ในปี 2556 เป็นสัดส่วน การก าหนดนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจของ
33 : 67 ในขณะที่คว ามต้อง การของ ประเทศอย่างชัดเจนทั้งในระยะสั้นและระยะ
ตลาดแรงงาน มีความต้องการผู้จบการศึกษา ยาว โดยด าเนินการควบคู่กันระหว่าง
สายอาชีวะร้อยละ 71.4 และต้องการผู้จบสาย การพัฒนาระบบการศึกษา และมุ่งเน้นให้มีการ
สามัญเพียงร้อยละ 28.6 เท่านั้น จึงส่งผลให้ วิจัยพัฒนาเป็นอย่างมาก ส าหรับประเทศไทย
ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานฝีมือเป็นอย่าง อาจน าแนวทางดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ได้ดังนี้
มาก นอกจากนี้ ยังพบว่าเกิดปัญหาการขาด 1. ด้านการวิจัยและพัฒนา
แคลนแรงงานทางด้านสายวิทยาศาสตร์และ หน่วยงานด้านนโยบาย เช่น ส านักงาน
เทคโนโลยีด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันมีสัดส่วน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
การผลิตบัณฑิตสายศิลปศาสตร์และ แห่งชาติ ส านักงานคณะกรรมการนโยบาย
สังคมศาสตร์อยู่ที่ 70% และสายวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ
อยู่ที่ 30% ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาการว่างงานของ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ผู้ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วย ส านักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
ส าหรับงานด้านการวิจัยและพัฒนาที่จะ ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
มีส่วนช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นการ เป็นต้น ควรร่วมกันก าหนดนโยบายและทิศทาง
เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการเพื่อเพิ่ม รวมถึงตัวชี้วัดด้านการวิจัยและพัฒนาของ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศนั้น ในประเทศ ประเทศในสาขาต่าง ๆ ให้ชัดเจนและเพิ่ม
ไทยก็ถือเป็นเรื่องที่ยังเป็นปัญหา เนื่องจาก จ านวนมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการต่อยอดให้เกิด
จ านวนนักวิจัยที่ท างานวิจัยและพัฒนาของไทย นวัตกรรมใหม่ ๆ อีกทั้งต้องส่งเสริมให้มีการ
ยังมีจ านวนน้อยเมื่อเทียบกับจ านวนประชากร ผลิตนักวิจัยให้มีจ านวนเพิ่มขึ้น รวมถึงควร
ทั้งหมด ซึ่งจากข้อมูลในปี ค.ศ. 2008 พบว่า ส่งเสริมให้มีการบูรณาการการวิจัยและพัฒนา
สาธารณรัฐเกาหลีมีจ านวนนักวิจัยด้านการวิจัย ระหว่างส่วนราชการและภาคเอกชนให้มาก
และพัฒนาถึงเกือบ 5,000 คนต่อประชากร ยิ่งขึ้น
1 ล้านคน ในขณะที่ประเทศไทยมีนักวิจัย
239

