Page 69 - พระจันทร์ซ่อนหา
P. 69
อุ ม า ริ ก า ร์ l 75
หนึ่งเครื่อง”
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ซื้อนี่” พอเขาบอกด้วยน�้าเสียงหงุดหงิดแกม
เบื่อหน่ายเสร็จ ก็ยกปลายนิ้วขึ้นมาจิ้มหน้าผากเธอแรงๆ ทีหนึ่งแล้วพูดต่อว่า
“แต่ยายนี่โวยวายไปเองทั้งหมด” จากนั้นชายหนุ่มก็จ้องหน้าเธอด้วยสายตา
แปลกๆ เหมือนจะขบขันระคนนับถืออยู่แวบหนึ่งก่อนกลับไปเป็นบึ้งตึง
เฉยชาอย่างเก่า “ทีนี้ถ้าเธอหายสติแตกแล้ว ก็ช่วยปล่อยมือจากเสื้อฉัน
ทีเถอะ อึดอัด หายใจไม่ออก”
แต่เต็มดวงไม่ยอมฟังค�าสั่งอีกฝ่าย เพราะพอสติเริ่มครบบริบูรณ์
หญิงสาวก็มือไม้อ่อนปวกเปียกไปหมด แขนขาแทบไม่มีแรงยืน ถ้าไม่จับ
คอเสื้อเขาเอาไว้ เธอต้องลงไปกองอยู่กับพื้นตลาดนี่แน่ๆ เขนคงอ่านใจเธอ
ออกเลยส่ายหน้าดิกเหมือนเบื่อหน่ายระคนระอาใจ ก่อนจะแกะมือเรียวออก
จากคอเสื้อ แล้วหันไปถามภาสันต์ว่า
“แล้วนายมีอะไร ถึงมาถึงนี่ได้”
“ผมตั้งใจจะมาแวะรับพี่เขนไปธุระด้วยกันหน่อย”
ค�าพูดนั้นท�าให้คนฟังหูผึ่ง สงสัยว่าธุระอะไรถึงต้องท�าตั้งแต่เช้ามืด
แบบนี้ ดูท่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงภาสันต์พูดต่อว่า
“แต่สงสัยว่าผมคงต้องไปคนเดียวแล้วละ พี่ยังยุ่งอยู่เลยนี่” แล้ว
ดวงตาคนพูดก็เลื่อนมาจับที่ใบหน้าของเธอคล้ายจะล้อเลียน “แล้วหนูดินก็
อย่าไปตะคอกใส่หน้าพี่เขนอีกล่ะ รู้ไหม ท�าเขาตกใจมากเลยนะนั่นน่ะ เพราะ
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครท�ากับเขาแบบนี้มาก่อนเลย”
ยิ่งฟังเต็มดวงก็ยิ่งใจฝ่อและนึกโมโหตัวเองที่โกรธขึ้นมาทีไรก็เห็นช้าง
ตัวเท่าหนูเสียทุกทีไป ขณะที่เขนก็คงไม่ชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะเขา
ท�าหน้าตาบึ้งตึงแปลกๆ ตอนตวัดสายตาดุดันส่งไปให้ภาสันต์ แล้วบอก
ฝ่ายนั้นห้วนๆ ว่า
“ฉันไปกับนายได้ แต่คงต้องโทร. เรียกเด็กๆ ที่ไร่มาขับรถพายายนี่
กับมะนาวแล้วก็สมเดชกลับไปที่ไร่แทน”