Page 41 - จากบุตรช่างสู่บัลลังก์ศาล
P. 41

ว่า "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว)" ก็พอครับเพื่อกันเหนียวไว้       เทคนิคที่คิดว่าช่วยเพิ่มคะแนนในการเขียนตอบข้อสอบ‬ของผม ได้แก่

               ก่อน (ประเด็นนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจชัดเจนว่าถูกที่ควรหรือไม่  แต่เคยได้รับฟังจาก     ๑. ผมมักยังไม่ตอบเข้าไปตรงค าถามสุดท้ายตามที่โจทย์ถามทันที โดย
               ท่านอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ในการสอนวิชานี้มาครับ)  เว้นแต่จะต้องกล่าวถึง   จะวางหลักไปเป็นขั้นเป็นตอนให้ท่านอาจารย์ผู้ตรวจเห็นว่าเรามีภูมิความรู้อยู่

               ฉบับที่ถูกยกเลิกไปแล้ว เช่น "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช      บ้าง เช่น ข้ออุทธรณ์ฎีกาตาม ป.วิ.พ. ไม่ว่าจะเป็นการถามตาม ม.๒๒๔ หรือ ม.

               ๒๕๕๐"  เป็นต้น ส่วนเรื่องเลขมาตราไม่จ าหรือไม่มั่นใจ ก็ไม่ควรเสี่ยงครับ ทาง  ๒๒๕ ก็ควรจะวางหลักกฎหมาย (เท่าที่จะคิดออกในเวลานั้น) ที่พอจะเกี่ยวข้อง
               แก้ของผมก็คือ จะเขียนชื่อหมวดหรือชื่อเรื่องที่เกี่ยวข้องของกฎหมายนั้นแทน (ที่  กับประเด็นส าคัญๆ ของโจทย์ข้อนั้นเสียก่อนว่า ปัญหาที่เราก าลังวินิจฉัยอยู่นั้น

               คิดได้ในเวลานั้น)  เช่น "ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าด้วยเรื่อง  เป็นปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย และจะให้นิยามความหมายปัญหาต่างๆ
               การพิจารณาคดีมโนสาเร่ วางหลักไว้ว่า...", "ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.   คล่าวๆ ด้วย เช่น “ปัญหาเรื่องการตีความสัญญา ถือว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

               ๒๔๘๓ ว่าด้วยเรื่องการขอรับช าระหนี้ของเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย มีหลักว่า..."   กล่าวคือ เป็นการที่ศาลตีความหมายถึงเจตนาที่แท้จริงของคู่สัญญาตามถ้อยค า

               เป็นต้น                                                                   ตัวอักษรในสัญญาที่คู่ความทั้งสองฝ่ายกล่าวอ้าง ซึ่งถือว่าข้อเท็จจริงได้ยุติแล้ว”,
                                                                                         “ปัญหาการอุทธรณ์โต้แย้งวันที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยแล้วว่าโจทก์รู้เรื่องและรู้ตัว
                       เทคนิค การย่นเวลาในการเขียนตอบได้มากยิ่งขึ้น คือ การเขียนชื่อเต็ม

               ของกฎหมายเพียงครั้งเดียวในท่อนของวินิจฉัยปรับบทกฎหมายเท่านั้นครับ หาก     ผู้กระท าละเมิดวันใดถือว่าอายุความเริ่มนับแต่วันดังกล่าวว่าเป็นวันอื่นนั้น

               มีต้องวินิจฉัยมาตราอื่นๆ ต่อมาก็ไม่ต้องเขียนชื่อกฎหมายเดิมนั้นซ้ าอีกแล้ว   ถึงแม้ว่าประเด็นปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่จะเป็นปัญหาข้อ
               หรือไม่ต้องใช้ตัวย่อชื่อกฎหมายอีก เพราะเชื่อว่าเป็นที่รู้กันว่าผู้เข้าสอบประสงค์  กฎหมาย แต่การอุทธรณ์ดังกล่าวถือเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟัง

               จะอ้างกฎหมายเดิม อันจะท าให้การตอบไม่เยิ่นเย้อและซ้ าซาก ดูน่าอ่าน และไม่  พยานหลักฐานของศาลชั้นต้นว่าโจทก์รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระท าละเมิดตั้งแต่เมื่อใด
               ท าให้เสียเวลาในการเขียนโดยใช่เหตุ  เว้นเสียแต่ว่า ข้อสอบข้อนั้นจะต้องตอบ  แน่อันเป็นปัญหาที่ศาลอุทธรณ์จ าต้องวินิจฉัยในข้อเท็จจริงก่อนน าไปสู้ปัญหาข้อ

               กฎหมายหลายฉบับ ก็ควรต้องเขียนแยกมาตราไหนจากตัวบทฉบับใดให้ชัดเจน           กฎหมาย จึงถือเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง”  หรือกรณีโจทย์พระธรรมนูญ
               ด้วย เช่น ข้อสอบคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือข้อสอบ ป.วิ.อ. ที่ต้องอ้าง  ศาลยุติธรรมคงจะต้องหนีไม่พ้นปัญหาให้วินิจฉัยก่อนว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีมีทุน
                                                                                         ทรัพย์หรือไม่ ซึ่งหากประเมินสถานการณ์ ณ ขณะนั้นแล้วพอจะมีเวลาเขียน ก็
               มาตราใน ป.วิ.พ. ด้วย เป็นต้น
                                                                                         ควรเขียนชื่อประเภทของคดีให้เต็ม เช่น “คดีนี้เป็นคดีมีค าขอให้ปลดเปลื้องทุกข์
                                                                                         อันมิอาจค านวณเป็นราคาเงินได้หรือคดีไม่มีทุนทรัพย์”  เป็นต้น และควรใส่
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46