Page 50 - จากบุตรช่างสู่บัลลังก์ศาล
P. 50

แสดตามมาตรา ๕๖๙ วรรคสอง นายด าโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่าดังกล่าว            เทียบเคียง: ฎ.๑๔๘๑/๒๕๕๙ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จดทะเบียนโอนที่ดินที่

               จากนายเหลืองจ าเลยอีก  ค าพิพากษาของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ชอบด้วยเหตุผล      เช่าให้แก่ ก. เพื่อเป็นหลักประกันการช าระหนี้ระหว่างโจทก์กับ ส. ซึ่งเป็นมารดา
               และหลักกฎหมายแล้ว                                                         ของ ก. การจดทะเบียนดังกล่าวได้จดทะเบียนว่าขายที่ดินเฉพาะส่วน แต่ที่

                                                                                         แท้จริงแล้วเป็นการโอนเพื่อเป็นประกันหนี้ มิได้มีการซื้อขายกันจริง นิติกรรม
                       ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประการต่อมาว่า อุทธรณ์ของนายด าฟังขึ้นหรือไม่
                                                                                         ระหว่างโจทก์กับ ก. จึงเป็นนิติกรรมอ าพราง กรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมโรงสีจึงยัง
               เมื่อสัญญาเช่าโรงงานพิพาทเป็นสัญญาเช่าที่ดินพร้อมอาคารโรงงาน โดยไม่
               ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการก าหนดค่าเช่าในส่วนเครื่องจักรและอุปกรณ์แยกไว้เป็น  เป็นของโจทก์ จ าเลยต้องช าระค่าเช่าปี ๒๕๕๔ ถึงปี ๒๕๕๖ แก่โจทก์ล่วงหน้าใน

               เฉพาะว่าเป็นจ านวนเท่าใด เห็นได้ชัดว่านายด าผู้ให้เช่าเดิมมีเจตนาชัดแจ้งที่จะให้  อัตราปีละ ๑,๖๐๐,๐๐๐ บาท ต่อหนึ่งหุ้น จึงเป็นการกล่าวอ้างว่าสัญญาขายที่ดิน
               เป็นของใช้ประจ าโรงงานพิพาท จึงถือได้ว่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ดังกล่าวเป็น  เฉพาะส่วนระหว่างโจทก์กับ ก. เป็นนิติกรรมที่ไม่สมบูรณ์ไม่มีผลบังคับตาม
                                                                                         กฎหมาย แต่ข้ออ้างของโจทก์ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของนิติกรรมขายที่ดิน
               เครื่องอุปกรณ์ของโรงงานพิพาท ย่อมตกติดไปกับโรงงานพิพาทที่เป็นทรัพย์

               ประธาน ตามมาตรา ๑๔๗ วรรคสาม เมื่อนายด าจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ใน           ดังกล่าว เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับ ก. และจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก
               ที่ดินและโรงงานพิพาทแก่นายแสดจึงต้องหมายความรวมทั้งเครื่องจักรและ         ผู้กระท าการโดยสุจริตและต้องเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงนั้นมิได้

               อุปกรณ์ด้วย จึงฟังไม่ได้ว่านายด ายังคงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเครื่องจักรและ      โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าจากจ าเลยในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยอ้างว่า

               อุปกรณ์ภายในโรงงานพิพาท นายด าโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่าในส่วน       กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่เช่ายังเป็นของโจทก์ ทั้งที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้ขาย
               เครื่องจักรและอุปกรณ์จากนายเหลืองจ าเลยตามอุทธรณ์ได้                      ที่ดินที่ใช้เช่าแก่ ก. เมื่อ ก. มิได้อยู่ในฐานะคู่ความในคดีนี้ ข้ออ้างตามฟ้องของ

                                                                                         โจทก์ว่าสัญญาขายที่ดินเฉพาะส่วนระหว่างโจทก์กับ ก. เป็นนิติกรรมอ าพราง
                       ดังนี้จึงวินิจฉัยได้ว่า
                                                                                         จึงเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องด าเนินคดีแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ศาลมีค าพิพากษา

                       (ก) ค าพิพากษาของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว และ         หรือค าสั่งเพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวให้ที่ดินพิพาทกลับคืนมาเป็นของโจทก์
                                                                                         เสียก่อน แม้จะได้ความว่าโจทก์ได้ฟ้อง ก. ต่อศาลชั้นต้น ขอให้มีค าสั่งเพิกถอน
                       (ข) อุทธรณ์ของนายด าฟังไม่ขึ้น
                                                                                         นิติกรรมขายที่ดินที่เช่า แต่ไม่ปรากฏว่ามีค าพิพากษาหรือค าสั่งให้เพิกถอนนิติ

                       ดังที่ได้วินิจฉัยไว้ข้างต้น.                                      กรรมขายที่ดินที่ให้เช่ากลับมาเป็นของโจทก์ เมื่อตราบใดที่ศาลยังไม่มีค า
                                                                                         พิพากษาหรือค าสั่งให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าว โจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าฟ้องเรียกค่า
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55