Page 25 - หนังสือเรียนสาระความรู้พื้นฐาน
P. 25
18
(5) มิกซีดีมา (myxedema) เกิดขึ้นในผูใหญ เนื่องจากตอมไทรอยดหลั่งฮอรโมนออกมา
นอยกวาปกติ ผูปวยจะมีอาการสําคัญ คือการเจริญทั้งทางรางกายและจิตใจชาลง มีอาการชัก ผิวแหง หยาบ
เหลือง หัวใจ ไตทํางานชาลง เกิดอาการเฉื่อยชา ซึม ความจําเสื่อม ไขมันมาก รางกายออนแอ ติดเชื่องาย โรค
นี้พบในเพศหญิงมากกวาเพศชาย
2) ฮอรโมนแคลซิโทนิน (calcitonin) เปนฮอรโมนอีกชนิดจากตอมไทรอยด ทําหนาที่ลดระดับ
แคลเซียมในเลือดที่สูงเกินปกติใหเขาสูระดับปกติโดยดึงแคลเซียมสวนเกินไปไวที่กระดูก ดังนั้นระดับ
แคลเซียมในเลือดจึงเปนสิ่งควบคุมการหลั่งฮอรโมนนี้และฮอรโมนนี้จะทํางานรวมกับฮอรโมนจากตอม
พาราไธรอยดและวิตามินดี
2.3 ตอมพาราไธรอยด (parathyroid gland)
ตอมพาราไธรอยดเปนตอมไรทอที่มีน้ําหนักนอยมาก ติดอยูกับเนื้อของตอมไธรอยดทาง
ดานหลัง ในคนมีขางละ 2 ตอม มีลักษณะรูปรางเปนรูปไขขนาดเล็กมีสีน้ําตาลแดง หรือน้ําตาลปนเหลือง มี
น้ําหนักรวมทั้ง 4 ตอม ประมาณ 0.03 – 0.05 กรัม
ฮอรโมนที่สําคัญที่สรางจากตอมนี้ คือพาราธอรโมน (parathormone) ฮอรโมนนี้ทําหนาที่รักษา
สมดุลของแคลเซียม และฟอสฟอรัสในรางกายใหคงที่ โดยทํางานรวมกับแคลซิโตนิน เนื่องจากระดับ
แคลเซียมในเลือดมีความสําคัญมาก เพราะจําเปนตอการทํางานของกลามเนื้อประสาทและการเตนของหัวใจ
ดังนั้น ตอมพาราธอรโมนจึงจัดเปนตอมไรทอที่มีความจําเปนตอชีวิต
2.4 ตอมหมวกไต (adrenal gland)
ตอมหมวกไต อยูเหนือไตทั้ง 2 ขาง ลักษณะตอมทางขวาเปนรูปสามเหลี่ยม สวนทางซายเปนรูป
พระจันทรครึ่งเสี้ยว ตอมนี้ประกอบดวยเนื้อเยื่อ 2 ชนิด คือ อะดรีนัลคอรเทกซ (adrenal cortex) เปนเนื้อเยื่อ
ชั้นนอกเจริญมาจากเนื้อเยื่อชั้นมีโซเดิรม (Mesoderm) และอะดีนัลเมดุลลา (adrenal medulla) เนื้อเยื่อชั้นใน
เจริญมาจากสวนเนื้อเยื่อชั้นนิวรัลเอกโตเดิรม (neural ectoerm) ดังนั้นการทํางานของตอมหมวกไตชั้นเมดุล
ลาจึงเกี่ยวของกับระบบประสาทซิมพาเธติก ซึ่งผลิตฮอรโมนชนิดตางๆ ดังนี้
1) อะดรีนัล คอรเทกซ ฮอรโมนจากอะดรีนัล คอรเทกซ ปจจุบันนี้พบวาอะดรีนัล คอรเทกซ
เปนตอมไรทอที่สามารถสรางฮอรโมนไดมากที่สุดกวา 50 ชนิด ฮอรโมนที่ผลิตขึ้นแบงออกเปน 3 กลุม ตาม
หนาที่ คือ
(1) ฮอรโมนกลูโคคอรติคอนด (glucocorticoid) ทําหนาที่ควบคุมเบตาบอลิซึมของคาร
โอไฮเดรตเปนสําคัญ นอกจากนี้ยังควบคุมเมตาบอลิซึมของโปรตีน และไขมัน รวมทั้งสมดุลเกลือแรดวยแต
เปนหนาที่รอง การมีฮอรโมนกลูโคคอรติคอนดนี้มากเกินไป ทําใหเกิดโรคคูชชิ่ง (Cushind’s syndrome)
โรคนี้จะทําใหหนากลมคลายพระจันทร (moon face) บริเวณตนคอมีหนอกยื่นอกมา (buffalo hump) อาการ
เชนนี้อาจพบไดในผูปวยที่ไดรับการรักษาดวยยาที่มีคอรตโคสเตรอยดเปนสวนผสม เพื่อปองกันอาการแพ
หรืออักเสบติดตอกันเปนระยะเวลานาน