Page 8 - แผ่นพับใหม่ ด้านหน้า.indd
P. 8
บุคคล ปุถุชน ผู้มีใจเที่ยงธรรม
การรักษาศีล ไม่เป็นของจ�าเป็น
ผู้มีความประพฤติตรงแน่ว การปฏิบัติในทางฌาน มันจะมีมาเอง แม้จะไม่ตั้งใจท�า
อภิญญา คือ ความรู้ยิ่ง ความรู้ชัด อภิญญาณ คือ ความรู้ยิ่ง
อภิญญา ๖ ความรู้ยิ่งยวด
๑. อิทธิวิธา หรือ อิทธิวิธิ ความรู้ที่ท�าให้แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
๒. ทิพพโสต ญาณที่ท�าให้มีหูทิพย์
๓. ปุพเพนิวาสานุสสติ ญาณที่ท�าให้ระลึกชาติได้
๔. เจโตปริยญาณ ญาณที่ให้ก�าหนดใจคนอื่นได้
๕. ทิพพจักขุ ญาณที่ท�าให้มีตาทิพย์
๖. อาสวักขยญาณ ญาณที่ท�าให้อาสวะสิ้นไป
ห้าข้อแรกเป็นโลกิยะ (โลกียอภิญญา) ข้อท้ายเป็นโลกุตตระ
วิชชา ๓ คือ ความรู้แจ้ง ความรู้วิเศษ
๑. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ญาณเป็นเหตุระลึกขันธ์ที่อาศัยอยู่ในก่อนได้ ระลึกชาติได้
๒. จุตูปปาตญาณ ญาณก�าหนดรู้จุติและอุบัติแห่งสัตว์ทั้งหลาย อันเป็นไปตามกรรม
เห็นการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งหลาย เรียกอีกอย่างว่า
ทิพพจักขุญาณ
๓. อาสวักขยญาณ ญาณหยั่งรู้ในธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
ความรู้ที่ท�าให้สิ้นอาสวะ ความตรัสรู้
วิชชา ๓ นี้ เรียกสั้นๆ ว่า ญาณ ๓
วิชชา ๘ ความรู้แจ้ง ความรู้วิเศษ
๑. วิปัสสนาญาณ ญาณในวิปัสสนา ญาณที่เป็นวิปัสสนา คือ ปัญญาที่พิจารณาเห็นสังขาร
คือ นามรูปโดยไตรลักษณ์ มีต่างกันออกไปเป็นชั้นๆ ต่อเนื่องกัน
๒. มโนมยิทธิ ฤทธิ์ส�าเร็จด้วยใจ ฤทธิ์ทางใจ คือ นิรมิตกายอื่นออกจากกายนี้
ดุจชักไส้จากหญ้าปล้อง ชักดาบจากฝัก หรือชักงูออกจากคราบ
๓. อิทธิวิธา หรืออิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
๔. ทิพพโสต หูทิพย์
๕. เจโตปริยญาณ ความรู้ที่ก�าหนดใจผู้อื่นได้
๖. ปุพเพนิวาสานุสสติ ระลึกชาติได้
๗. ทิพพจักขุ ตาทิพย์
๘. อาสวักขยญาณ ความรู้ที่ท�าให้สิ้นอาสวะ
๘. ความแตกต่างทั้งหลาย เกิดขึ้นจากความคิดผิดๆ เท่านั้น
และย่อมน�าไปสู่การก่อกรรมทั้งหลาย ทั้งปวง ทุกชนิด ไม่มีหยุด
รูปบัญญัติ หมายถึง การบัญญัติชื่อ และบัญญัติอย่างคติทวินิยม
เช่นว่า ดี ชั่ว บุญ บาป ฯลฯ คติทวินิยมเป็นคู่ๆ กัน
ท�า ดู ๘ ดู ธรรม