Page 7 - แผ่นพับใหม่ ด้านหน้า.indd
P. 7
วิปัสสนาให้ถึงความว่าง คือ วิปัสสนาที่ท�าให้บรรลุสิ่งสูงสุด ด้วยสูญญตสมาธิ
จิต สู่ว่าง ว่างหาอ้างว้างไม่ ว่างได้ด้วยการ “ละ.....ละทุกสิ่ง”
เมื่อรู้แจ้งชัดตามความจริง ที่เรียกว่ารู้ “วิปัสสนา” แล้ว
ว่าง ความว่าง จิตว่าง
ว่าง ในความว่าง มีทุกสิ่ง รู้ทุกสิ่ง รู้ทุกสิ่ง มีทุกสิ่ง ในความว่าง ว่าง
ในว่างนั่นแหละไม่ว่าง ในไม่ว่างนั่นแหละว่าง
ในมีนั่นแหละไม่มี ในไม่มีนั่นแหละมี
ความจริงนั่นแหละไม่จริง ไม่จริงนั่นแหละความจริง
นิจจัง นั่นแหละ อนิจจัง อนิจจัง นั่นแหละ นิจจัง
ความแน่นอน นั่นแหละไม่แน่นอน ความไม่แน่นอน นั่นแหละ แน่นอน
ความเที่ยงแท้ นั่นแหละ ไม่เที่ยงแท้ ความไม่เที่ยงแท้ นั่นแหละ เที่ยงแท้
บุคคล ปุถุชน สามัญชน บุคคลธรรมดา ไม่มีสิ่งเชิดชู และมีสิ่งเชิดชู
ย่อมมีอิสระ เป็นอิสระ ที่จะ เชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ ได้แน่นอน ท�าก็ได้ ไม่ท�าก็ได้ ได้แน่นอน
การท�า การน�าเสนอ การแสดง มานี้ เพื่อให้มีปรากฏเป็นบันทึกไว้ เป็นส�าคัญ
เป็นปีติ เป็นสวัสดี เป็นปริโยสาน
เป็นการอิ่มใจ การยินดี เป็นความดี ความเจริญรุ่งเรือง เป็นจบบริบูรณ์
เป็นที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน จงท�าตนให้เป็นผู้ บรรลุสิ่งสูงสุด ด้วยตัวเอง
เป็นผู้บรรลุสิ่งสูงสุด คือ “ตรัสรู้” รู้อริยสัจสี่ รู้ไตรลักษณ์ รู้วิปัสสนา รู้แจ้งชัดตามความจริง
รู้เหตุและผล ในการบ�าเพ็ญทุกรกิริยา และ รู้เหตุและผล ของการ งดบ�าเพ็ญทุกรกิริยา
กามสุขัลลิกานุโยค อัตถกิลมถานุโยค มัชฌิมาปฏิปทา
การหมกมุ่นด้วยความสุข การประกอบความล�าบาก เดือดร้อน แก่ตนเอง การเดินสายกลาง ประพฤติอย่างพอดี
เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงบ�าเพ็ญทุกรกิริยา และ งดการบ�าเพ็ญทุกรกิริยา
ทรงบรรลุสิ่งสูงสุด ตรัสรู้ อริยสัจสี่ ไตรลักษณ์ วิปัสสนา เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อนึ่ง ขอกล่าวไว้ ให้รู้ว่า การรักษาศีล สมาธิ ปัญญา
การบูชา การสวดมนตร์ การท่องสูตร การภาวนา การขอพร การอุทิศบุญ-กุศล
การบ�าเพ็ญบุญ การสร้างกุศล การสร้างสมบารมี ทศบารมี
สร้างสิ่งนั้น สร้างสิ่งนี้ ยึดติดสร้าง แข่งขันสร้าง สร้างต่อเนี่อง ไม่สิ้นสุด หลง ยึดติด ลุ่มหลง งมงาย คร�่าครึ
การปฏิบัติทางจิต เพื่อบรรลุสิ่งสูงสุด จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ภาวะ ความเป็น ความปรากฏของ “นิพพาน” คือ
รู้แจ้งชัดตามความจริง ความดับกิเลส และกองทุกข์ ทั้งปวง ศูนย์ บริสุทธิ์ ว่าง ว่างหาอ้างว้างไม่
ธรรม ธรรมชาติ เป็นสิ่ง สรรพสิ่ง มาจากความว่าง ที่ว่าว่าง แล้วก็กลับคืนไปสู่ความว่าง ที่ว่าว่างนั้น
ปุถุชน พึงรู้ว่า สุข ความสุข สุขแท้ คือ “ภาวะว่าง” กายว่าง วาจาว่าง จิตว่าง คือ “ว่างบริสุทธิ์”
จงท�าตัวเอง เป็น ผู้เป็นใหญ่ ด้วยการแสดงความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อผู้อื่นเป็นนิจ เที่ยง ยั่งยืน เสมอ เทอญ
๗. ผู้ที่ยึดมั่นใน รูปธรรม ซึ่งท�าความชั่ว
จะต้องทนรับ การเกิดแล้วเกิดอีก ด้วยประการต่างๆ อย่างไม่จ�าเป็น
ผู้ที่ยึดมั่นใน รูปธรรม ซึ่งท�าความดี
ก็ท�าตัวเองให้ตกลงเป็นทาสของความพยายาม และความรู้สึกว่า
ตนเป็นผู้ขาดแคลนอยู่เสมอ โดยเท่าเทียมกัน อย่างไม่มีที่มุ่งหมาย
ท�า ดู ๗ ดู ธรรม