Page 29 - เอกสารการเรียนบทที่-2
P. 29

ความเป็นพลเมือง






                                      1.  กำรออกเสียงประชำมติ (Referendum)
                                          การออกเสียงประชามติเป็นรูปแบบหนึ่งของการเมืองภาคประชาชนที่ให้

                       ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนลงคะแนนออกเสียในกิจกรรม

                       หรือประเด็นต่างๆ  ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจของรัฐในกิจกรรม
                       หรือประเด็นนั้น

                                          วัตถุประสงค์หลักของการออกเสียงประชามติ คือ การให้ประชาชนมามีส่วนร่วม

                       หารือแสดงความคิดเห็นเพื่อจูงใจประชาชนให้มีส่วนร่วมกับรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีความเข้าใจ

                       ในปัญหาเกี่ยวข้องกับการเมืองและการปกครองประเทศดีขึ้น และในกรณีที่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับ
                       นโยบาย ก็จะได้เลือกแนวทางได้อย่างถูกต้อง เพราะมาจากความต้องการหรือจากเจตนารมณ์

                       ของประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอ านาจอธิปไตย โดยทั่วไปมีลักษณะให้ประชาชนออกเสียงว่ายอมรับ

                       หรือปฏิเสธในเรื่องที่ก าหนดให้เท่านั้น ด้วยวิธีการลงคะแนนคล้ายคลึงกับการเลือกตั้งทั่วไป

                       จะไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นประกอบ (คณะวิจัยโครงการเสริมสร้างประชาธิปไตย
                       แบบมีส่วนร่วมฯ, 2544ก: 48)

                                          การออกเสียงประชามติได้มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.  2492  เป็น

                       ครั้งแรกและรัฐธรรมนูญฉบับต่อมามีการบัญญัติไว้เช่นกัน  ส่วนการออกเสียงประชามติครั้งแรก

                       ของประเทศไทย  คือการออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 อันเป็นผลของการรัฐประหาร

                       19 กันยายน 2549  โดยก าหนดให้รัฐ  โดยส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดให้มีการออกเสียง
                       ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550

                                      2.  ประชำพิจำรณ์ (Public hearing)

                                          ประชาพิจารณ์เป็นรูปแบบการด าเนินการโดยราชการหรือรัฐที่ให้ประชาชน
                       เข้าร่วม  อาจจะมาจากความประสงค์ของราชการ  หรือการที่ประชาชนเคลื่อนไหวเพื่อใช้เป็นพื้นที่

                       ในการได้โอกาสเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่มีความขัดแย้ง  ดังนั้น  ประชาพิจารณ์จึงเป็น

                       รูปแบบที่รัฐน ามาด าเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน

                       และ/หรือรับประโยชน์ต่างกันจากโครงการพัฒนาของรัฐ และเป็นกระบวนการที่บริหารจัดการ

                       โดยราชการหรือรัฐ
                                          ประชาพิจารณ์จะมีลักษณะเป็นการประชุมกลุ่มขนาดใหญ่ที่เป็นทางการ

                       ซึ่งต้องจัดให้มีขึ้นตามที่กฎหมายก าหนดไว้ โดยมีการจัดวาระการก าหนดเวลาให้แต่ละฝ่าย

                       น าเสนออย่างเป็นระบบ และมีการจดบันทึกการประชุมอย่างเป็นทางการท านองเดียวกับการ

                       พิจารณาในศาล(คณะวิจัยโครงการเสริมสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมฯ, 2544ข: 19)



                                                                                                        49
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34