Page 387 - วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ
P. 387

ฉบับพิเศษ ประจำ�ปี 2564




            พ.ศ. 2550 หรือ พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสําหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 เป็นต้น อยู่แล้ว
                                                             ี
            ก็ตาม แต่ศาลยุติธรรมในฐานะหน่วยงานของรัฐก็มีหน้าท่ต้องคํานึงถึงพันธกรณีระหว่างประเทศ
                                                          ี
            ในการกําหนดหลักเกณฑ์การรับบุคคลเข้าทําหน้าท่ในตําแหน่งใด เช่น ตามพระราชบัญญัต      ิ
            ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่าง
                                     ั
            ประเทศเช่นว่าน้นด้วย มิฉะน้นแล้ว จะถือว่ากฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับดังกล่าว ขัดหรือแย้ง
                          ั
            ต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งในคดีนี้ ศาลรัฐธรรมนูญอ้างถึงอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention
            on the Rights of Persons with Disabilities : CRPD) ซึ่งเป็นกฎหมายระหว่างประเทศมาเป็น
            ข้อสนับสนุนเหตุผลคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ

            ฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 26 วรรคหน่ง (10) เฉพาะในส่วนท่บัญญัติว่า
                                                                                      ี
                                                                 ึ
                                          ี
            “...มีกายหรือจิตใจไม่เหมาะสมท่จะเป็นข้าราชการตุลาการ...” ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
            ซ่งในความเห็นส่วนตัวของกระผม กระผมเห็นด้วยกับแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว และ
              ึ
            ไม่น่าจะขัดกับหลักกฎหมายของไทย

                    นอกจากน้ ยังปรากฏให้เห็นในคําพิพากษาศาลปกครองท่มีการอ้างถึงปฏิญญาสากล
                             ี
                                                                       ี
                                 ี
            ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเก่ยวกับการฝ่าฝืนหลักการออกเสียงลงคะแนนโดยลับ ในคําพิพากษา
                                                                               ิ
                                               ี
                                                                                             ี
            ศาลปกครองกลางคดีหมายเลขแดงท่  607-608/2549  ในคดีดังกล่าวเร่มต้นจากการท่มี
                                               ั
                                                                 ั
            ผู้ฟ้องคดีว่า คณะกรรมการการเลือกต้งจัดเรียงคูหาเลือกต้งให้ผู้มาใช้สิทธิเลือกต้งหันหน้าไป
                                                                                    ั
                            ั
            ทางผนังหรือฉากก้น เป็นการขัดกับหลักการเลือกต้งโดยลับตามรัฐธรรมนูญ ศาลปกครองในคดีน ี ้
                                                        ั
            วินิจฉัยโดยอ้างถึงปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (Universal Declaration
                                                                                              ั
                                                                         ี
            of Human Rights: UDHR) ข้อ 21 (3) มาเป็นเหตุผลสนับสนุนคําวินิจฉัยช้ขาดว่าการจัดการเลือกต้ง
            ในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทําที่ทําให้การออกเสียงลงคะแนนไม่เป็นไปโดยลับ อันเป็นการ
            ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
                             ี
                                                    ี
                    ด้วยเหตุน้เอง จึงมีความเป็นไปได้ท่ศาลยุติธรรมของไทยจะนําเอากฎหมายระหว่าง
                                                  ี
                                                  ่
                                                                  ั
                                                ี
                                                               ่
                                                                ้
                                                               ี
                                                                           ี
                                                                                             ้
                                                                                             ั
                                                                            ี
                                                                                         ื
                                                                                         ่
                                                                                     ิ
                                                                    ั
                                          ื
            ประเทศมาใชใน 3 กรณ กรณแรก คอ กรณทกฎหมายไทยทใชบงคบแกคดมบทบัญญัตในเรองนน
                                     ี
                        ้
                                                                        ่
                                ี
                                                                         ั
                                                                   ็
                                                                 ี
                                                                 ่
                     ้
                               ้
                                  ึ
            ชดแจงแลว ศาลอาจอางถงกฎหมายระหวางประเทศในฐานะทเปนแรงบนดาลใจ (Inspiration) หรือ
              ั
                 ้
                                               ่
                                                                                ิ
                                                                                   ึ
            เหตุผลสนับสนุนข้อวินิจฉัยช้ขาดของศาลให้มีความชัดเจนหรือมีนาหนักมากย่งข้น กรณีท่สอง
                                                                      ้
                                                                                           ี
                                     ี
                                                                      ํ
                      ี
                                                                                    ั
                                                                                ื
                                                                      ี
                                   ี
            คือ กรณีท่กฎหมายไทยท่ศาลจะปรับใช้แก่คดียังไม่มีบทบัญญัติท่ชัดแจ้งในเร่องน้น ศาลอาจ
              ํ
                                                                                           ้
                                                                                           ึ
            นากฎหมายระหว่างประเทศมาปรบใช้หรออดช่องว่างทยงคลมเครออย่ให้มความชดเจนขนได้
                                                                                     ั
                                                             ี
                                                                       ื
                                                ื
                                                                  ุ
                                          ั
                                                              ั
                                                             ่
                                                                               ี
                                                   ุ
                                                                           ู
                                                                               ื
                      ี
            และกรณีท่สาม  ศาลอาจใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นฐานในการเช่อมโยงโดยอ้อม
               ื
            เพ่อแสดงออกว่าประเทศไทยก็อยู่ในแวดวงระหว่างประเทศด้วย โดยไม่ต้องมาถกเถียงกันว่า
            จะเป็นการนํากฎหมายระหว่างประเทศดังกล่าวมาปรับใช้โดยตรงหรือไม่
                                                                                             385
   382   383   384   385   386   387   388   389   390   391   392