Page 385 - วารสารกฎหมาย ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษ
P. 385
ฉบับพิเศษ ประจำ�ปี 2564
คาถาม : ในช่วงท่เราอยู่ในยุคของสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับ
�
ี
ประเทศจีนและเกิดเป็นลัทธิกีดกันทางการค้า มีการใช้ข้ออ้างต่าง ๆ ในการกีดกันทางการค้า
โดยเฉพาะข้ออ้างทางด้านแรงงาน ท่านอาจารย์มีมุมมองและความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร และ
องค์การแรงงานระหว่างประเทศมีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ศาสตราจารย์กิตติคุณวิทิต มันตาภรณ์ : แท้จริงแล้ว คําตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับองค์การ
แรงงานระหว่างประเทศ แต่ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ องค์กรของสหประชาชาติ ซึ่งการจะตอบคําถาม
ี
น้ได้ ก็จะต้องพิจารณาต่อไปอีกว่าเป็นเร่องในระดับพหุภาคี (Multilateral) ทวิภาคี (Bilateral) หรือ
ื
เป็นรัฐใดรัฐหนึ่งเท่านั้น (Unilateral) สําหรับเรื่องสงครามการค้า (Trade War) ระหว่างประเทศ
ื
ั
สหรัฐอเมริกากับประเทศจีนโดยท่วไปแล้วเป็นเร่องในระดับทวิภาคี แต่หากจะกล่าวถึงผลกระทบ
ในแง่มุมของพหุภาคี (Multilateral) หรือผลกระทบทางด้านแรงงาน อาจถูกใช้เป็นข้ออ้างประการ
หน่งในการกีดกันทางการค้า เช่น การตัดสิทธิทางการค้า น้น ในปัจจุบัน องค์การแรงงานระหว่าง
ึ
ั
ื
ี
ประเทศก็มีมาตรฐานในการจัดการและรับมือกับเร่องดังกล่าว นอกจากน้ยังมีองค์การการค้าโลก
ที่มีทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการในการรับมือกับเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ื
ึ
ึ
ในยุคหน่ง เกิดประเด็นปัญหาข้นว่า หากมีประเด็นเร่องแรงงานเด็กเกิดข้น จะนําไปสู่
ึ
ี
ั
การบีบบังคับทางการค้า (Trade Sanction) ได้หรือไม่ ท้งสององค์การมีการแลกเปล่ยนข้อคิดเห็น
ื
ี
กันว่า หากเก่ยวข้องกับเร่องการพัฒนาแรงงานก็น่าจะอยู่ในความรับผิดชอบดูแลขององค์การ
ี
ื
ึ
แรงงานระหว่างประเทศ แต่หากเป็นเร่องทางการค้าซ่งมิได้เก่ยวข้องกับองค์การแรงงานระหว่าง
ั
ประเทศโดยตรงก็ให้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การการค้าโลก ดังน้น หากจะใช้กลไก
การบีบบังคับทางด้านแรงงานในบริบทของสงครามการค้า การใช้กลไกขององค์การแรงงาน
ระหว่างประเทศน่าจะเป็นวิธีการท่เหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตาม WTO ซ่งอยู่ภายใต้ความตกลงท่วไป
ี
ั
ึ
ว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า (The General Agreement on Tariffs and Trade : GATT)
ที่ถูกขยายความมาจากความตกลงมาร์ราเกซ (Marrakesh Agreement Establishing The World
Trade Organization) ก็ยึดหลักการเปิดเสรีทางการค้า (Trade Liberalization) ซ่งกรอบของ
ึ
ึ
การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ความตกลง GATT น้น มีมาตรา 20 ซ่งกําหนดให้รัฐสามารถจํากัดหรือ
ั
ตัดสิทธิในการค้าขายบางอย่างได้หากมีพฤติการณ์พิเศษ เช่น มีความจําเป็นต้องปกป้องคุ้มครอง
ชีวิตหรือสุขภาพของคน สัตว์ หรือพืช (Human, Animal or Plant Life or Health) การอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ (The Conservation of Exhaustible Natural Resources) หรือการใช้แรงงาน
ในคุก (Prison Labour) เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ซึ่งการจํากัดสิทธิเช่นว่านี้ก็ใกล้เคียงจะ
ั
่
ั
ั
้
เปนมาตรการบบบงคบทางการคาประการหนงเชนกน เนองดวยมาตรา 20 ของความตกลงทวไป
็
ี
ึ
ื
่
้
่
่
ั
383