Page 3 - ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ
P. 3
ประกอบรักษาใหความยุติธรรมเปนไป ถาจัดไดดีขึ้นเพียงใด ประโยชนความสุขของราษฎรก็จะเจริญ
ยิ่งขึ้นเทานั้น...”
ในถอยคําถวายสัตยปฏิญาณตอพระมหากษัตริยซึ่งบัญญัติไวในรัฐธรรมนูญแหง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๐๑ ไดเนนใหเห็นถึงความสําคัญของความยุติธรรมไว
เชนกัน ดังนี้
“ ขาพระพุทธเจา (ชื่อผูปฏิญาณ) ขอถวายสัตยปฏิญาณวา ขาพระพุทธเจาจะ
จงรักภักดีตอพระมหากษัตริย และจะปฏิบัติหนาที่ในพระปรมาภิไธยดวยความซื่อสัตยสุจริต
โดยปราศจากอคติทั้งปวง เพื่อใหเกิดความยุติธรรมแกประชาชน และความสงบสุขแหงราชอาณาจักร
ทั้งจะรักษาไวและปฏิบัติตามซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเปน
ประมุขตามรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยและกฎหมายทุกประการ”
(๒) ความซื่อสัตยสุจริต : คุณลักษณะสําคัญที่สุดขอหนึ่งของผูพิพากษาคือ
ความซื่อสัตยสุจริต พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ใหคํานิยามคําวา “ซื่อสัตย”
ไววา : “ประพฤติตรง และจริงใจ ไมคิดคดทรยศ ไมคดโกง และไมหลอกลวง” และใหคํานิยามคําวา
“สุจริต” วา : “ความประพฤติชอบ”
ความซื่อสัตยสุจริตจะเกิดขึ้นไดก็ตอเมื่อ มีสัจจะทั้งกายวาจาใจ ใจยึดมั่นจะทําแตสิ่ง
ที่ชอบ ไมประสงคในสิ่งซึ่งไมพึงมีพึงได อันจะนําไปสูการทุจริต จะกระทําสิ่งใดปากกับใจก็ตรงกัน
พูดอยางไร ทําอยางนั้น ทําอยางไร พูดอยางนั้น
ในวิชาชีพตุลาการ คําวา “ซื่อสัตยสุจริต” มีความหมายลึกซึ้งและประณีตกวา
ในทรรศนะของบุคคลทั่วไป ดวยจักตองพิเคราะหความประพฤติชอบในวิชาชีพตุลาการประกอบดวย
วาเปนประการใด เปนตนวา คูความฝายที่ชนะคดีนําเงินหรือทรัพยสินอื่นมาใหผูพิพากษาที่ตัดสินคดี
ใหตนชนะ หลังจากคดีนั้นถึงที่สุดแลว ดั่งนี้ ผูพิพากษาสมควรรับไวหรือไม กรณีเชนนี้อาจมีผูเขาใจวา
นาจะรับไวไดโดยชอบ เพราะคดีถึงที่สุดแลว ผูพิพากษาผูนั้นไมอาจใหคุณใหโทษแกคูความ
ฝายใดฝายหนึ่งไดตอไปอีกแลว การสมนาคุณเชนนี้ไมทําใหผูใดเสียหายหรือเดือดรอน แตในวงการ
ตุลาการเห็นวาผูพิพากษาผูนั้นไมอาจรับเงินหรือทรัพยสินนั้นไวได เพราะผูพิพากษาจักตองไมมีสวนได
เสียในคดีเปนการสวนตัวไมวาดวยประการใดทั้งสิ้น
การใด ๆ จักสําเร็จไดก็อยูที่ใจ หนทางที่จะรักษาความซื่อสัตยสุจริตไวไดคือ ตองหาม
ใจมิใหมัวเมาในกิเลส ตองตัดกิเลส อันไดแก ความโลภ ความโกรธ และความหลงใหจงได
(๓) นิติประเพณี : หมายถึงแนวปฏิบัติของผูพิพากษาในทางอรรถคดีซึ่งมิไดมี
บทบัญญัติของกฎหมายกําหนดไว แตเปนเรื่องที่บรรพตุลาการยึดถือกันมาวาถูกตองและปฏิบัติตาม
เชน ศาลลางยอมจะพิจารณาพิพากษาคดีตามแนวบรรทัดฐานของศาลสูง
(๔) จักตองแสดงใหเปนที่ประจักษแกสาธารณชนดวยวาตนปฏิบัติเชนนี้อยาง
เครงครัดครบถวน : ผูพิพากษามีหนาที่ไมเฉพาะแตเพียงประสาทความยุติธรรมแกคูความเทานั้น
หากแตยังตองแสดงใหเปนที่ประจักษแกสาธารณชนดวยวาตนไดปฏิบัติเชนนั้นแลวอยางเครงครัด
ครบถวน หลักพื้นฐานดังกลาวนี้เปนหลักการสําคัญของระบบศาลยุติธรรมของนานาประเทศ
(Justice must not only be done, but it must manifestly and undoubtedly be seen to
be done : per Lord Campbell) ( อางถึงในหนังสือ The Road to Justice ของลอรด เดนนิ่ง ซึ่งอาง