Page 32 - ประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ
P. 32
ขอหามดังกลาวนี้ เปนการสอดคลองกับบทบัญญัติแหงกฎหมายในเรื่องทํานอง
เดียวกันซึ่งกระจัดกระจายอยูหลายแหง เชน มาตรา ๕๙ แหงพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการ
ฝายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.๒๕๔๓ มาตรา ๘๓ (๖) แหงพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการพลเรือน
พ.ศ. ๒๕๕๑
การระบุชื่อตําแหนงไวใหคลุมถึงการ “ดํารงตําแหนงอื่นใด” ดวย ก็เพื่อปองกัน
การหลีกเลี่ยงโดยวิธีตั้งชื่อเฉพาะตําแหนงสําหรับผูพิพากษาขึ้นใหม เชน ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์
เหรัญญิก ปฏิคม หรือนายทะเบียน เปนตน ทั้งนี้ ไมวาการเขาดํารงตําแหนงหนาที่ดังกลาวนั้น
จะมีคาตอบแทนใหหรือไม
(๓) สําหรับการที่ผูพิพากษาจะประกอบอาชีพ วิชาชีพ หรือดําเนินกิจการใด
ดวยตนเองซึ่งอาจทําได ก็ยังจําเปนที่จะตองระมัดระวังใหอยูในลักษณะที่พอเหมาะพอควรอยูเสมอ
ทั้งจะตองมิใหกระทบกระเทือนตอการปฏิบัติหนาที่ของผูพิพากษาหรือเกียรติศักดิ์
ของสถาบันตุลาการดวย
บทบัญญัติ
ขอ ๒๗ ในกรณีจําเปนผูพิพากษาอาจไดรับมอบหมายหรือแตงตั้งจากหนวย
ราชการ หรือหนวยงานอื่นของรัฐใหปฏิบัติหนาที่อันเกี่ยวกับหนวยราชการ หรือหนวยงานนั้นได
ในเมื่อการปฏิบัติหนาที่ดังกลาวไมกระทบกระเทือนตอการปฏิบัติหนาที่หรือเกียรติศักดิ์ของ
ผูพิพากษา ทั้งจักตองไดรับอนุญาตจากสํานักงานศาลยุติธรรมแลว เวนแตจะมีบทบัญญัติ
แหงกฎหมาย ระเบียบขอบังคับ หรือมติของ ก.ต. ระบุไวเปนอยางอื่น
คําอธิบาย
(๑) ผูพิพากษาเปนบุคคลซึ่งไดรับการยอมรับและยกยองจากสังคมทั่วไปวาเปน
ผูทรงภูมิรูในทางกฎหมาย จึงมักจะไดรับการขอรองจากหนวยราชการอื่นใหไปชวยปฏิบัติงาน
อันเกี่ยวกับหนวยราชการนั้นเปนครั้งคราว การที่ผูพิพากษาจะไปชวยปฏิบัติหนาที่ใหกับหนวยราชการ
ตาง ๆ ตามคําขอรองนั้น นับวาเปนการปฏิบัติตนเพื่อประโยชนแกราชการโดยสวนรวมอยางหนึ่ง
ทั้งยังเปนโอกาสที่จะชวยชี้แจงใหบุคคลในวงการฝายอื่นมีความเขาใจในเรื่องของงานตุลาการ
ดีขึ้นอีกดวย แตอยางไรก็ตาม การที่ผูพิพากษาจะออกไปใหความชวยเหลือแกงานราชการฝายอื่นนี้
จักตองคํานึงถึงปญหาการขาดอัตรากําลังบุคลากรในวงการตุลาการและความจําเปนที่จะตองปกปอง
สถาบันตุลาการ มิใหเขาไปพัวพันกระทบกระทั่งหรือขัดแยงกับราชการฝายอื่นดวย จริยธรรมขอนี้
จึงไดวางเงื่อนไขสําหรับการที่ผูพิพากษาจะไดรับมอบหมายหรือแตงตั้งใหไปปฏิบัติหนาที่ราชการ
อื่นไว ๓ ประการ ดังนี้
(ก) ในกรณีจําเปน : การแตงตั้งหรือมอบหมายใหผูพิพากษาไปชวยปฏิบัติหนาที่
ราชการใหแกหนวยราชการ หรือหนวยงานอื่นของรัฐนั้นจะกระทําไดเมื่อมีความจําเปนจริง ๆ เทานั้น
และตองเปนไปในลักษณะที่ผูพิพากษาเปนฝายไดรับการขอรองจากฝายผูแตงตั้งหรือมอบหมาย
โดยที่ผูพิพากษานั้นมิไดกระทําการใด ๆ อันเปนการเสนอตัวดวย