Page 69 - โครงการ_Neat
P. 69
- 67 -
สมทรงตรงๆ ก็อายจึงทําที่ไปขอซื้อจากนางสมทรง เช่นนี้ นางสมศรีจะมาอ้าง
ว่าที่เอาเครื่องเพชรไปนั้น จริงๆ แล้วตน ขอยืมที่บอกว่าซื้อนั้นให้เป็นโมฆะ
ไม่ได้เพราะนางสมทรงไม่ได้รู้เจตนาในใจนางสมศรี แต่หากนางสมทรง อยู่
ว่าทุกครั้งที่มีงาน นางสมศรีต้องมาอุบายนี้ทุกคราวไป ก็เท่ากับว่านางสมทรง
รู้ถึงเจตนาในใจนางสมศรี ว่าจริงๆ เป็นการขอยืม ก็ให้การแสดงเจตนาซื้อขาย
นี้เป็นโมฆะแต่การกล่าวอ้างให้นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะจะยกเป็นข้อต่อสู้
บุคคลภายนอกที่ทําการโดยสุจริต และเสียหายจากการแสดงเจตนาลวงไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่น นางสมศรีชวนนายสมศักดิไปบ้านนางสมทรง เพื่อขอยืม
เครื่องเพชร แต่ก็กลัวเสียหน้า จึงบอกขอซื้อแก่นางสมทรง นางสมทรงก็รู้ถึง
ใจจริงของนางสมศรี ว่าขอยืม แต่เพื่อรักษาหน้าเพื่อนจึงบอกว่าขายให้ไว้ค่อย
มาจ่ายเงิน หากนางสมศรีนําเครื่องเพชรไปขาย ให้นายสมศักดิ์โดยอ้างว่าซื้อ
มาจากนางสมทรงเรียบร้อยแล้ว นายสมศักดิ์จึงซื้อเพื่อไปเป็นของหมั้น คู่หมั้น
ตน ต่อมานางสมทรงจะมาอ้างว่าเครื่องเพชรนั้นนางสมศรีแค่มาขอยืมเฉยๆ ที่
บอกว่าซื้อขายกันกับ นางสมศรีนั้นเป็นโมฆะ เมื่อยังไม่ขายกรรมสิทธิ์ก็ยังไม่
โอน นางสมศรีก็ไม่มีสิทธิที่จะนําไปขายได้ เช่นนี้ จะนํามากล่าวอ้างกับนาย
สมศักดิ์ไม่ได้ เพราะนายสมศักดิ์เป็นผู้สุจริตและเสียหาย (เพราะได้จ่ายเงินค่า
เครื่องเพชรไป) หรือในกรณีดังกล่าว สมศรีนําเครื่องเพชรมามอบให้กับ
สมศักดิ์ แม้สมศักดจะเป็นผู้สุจริต แต่สมศักดิ์ไม่มีความเสียหายจากการ
กระทําดังกล่าว เพราะสมศักดิ์ได้เครื่องเพชรมาแบบได้เปล่า เมื่อต้องคืนไป
สมศักดิ์ก็ไม่มีความเสียหายใดๆ เช่นนี้ สมทรงก็สามารถกล่าวอ้างให้นิติกรรม
ที่ตนทํากับ สมศรีเป็นโมฆะได้