Page 74 - โครงการ_Neat
P. 74
- 72 -
1) ถ้ามิได้มีกลฉ้อฉล ฝ่ายหนึ่งก็จะไม่ทํานิติกรรมนั้น ยกตัวอย่างเช่น
นายแดงต้องการ ซื้อแหวนเพชรแท้นายดํานําเพชรปลอมมาขาย และหลอก
นายแดงว่าเป็นเพชรแท้นายแดงหลงเชื่อจึงซื้อไป เช่นนี้เท่ากับนายแดงถูก
กลฉ้อฉล การซื้อแหวนเพชรครั้งนี้จึงเป็นโมฆยะ เพราะนายแดงตั้งใจซื้อ
แหวนเพชรแท้
2) ถ้าเป็นการฉ้อฉลโดยบุคคลภายนอกคู่กรณีฝ่ายหนึ่งต้องรู้หรือควรรู้
ถึงกลฉ้อฉลนั้นผลจึงเป็น โมฆี่ยะ ยกตัวอย่างเช่น นายแดงต้องการขาย
แหวนเพชรปลอมให้นายดํา แต่ถ้าไปหลอกด้วยตนเองก็เกรงว่า จะไม่
แนบเนียน จึงให้นายเขียวทําทีเป็นขอดูเพชรและบอกว่าเพชรเป็นเพชรแท้มี
นํ้าสวยงามมาก นายดําหลงเชื่อจึงซื้อแหวนเพชรนี้ ลักษณะนี้จึงเป็นกลฉ้อ
ฉลที่ทําโดยบุคคลภายนอกที่ทําให้นิติกรรม เป็นโมฆี่ยะ แต่หากกรณีนาย
เขียวเห็นใจนายแดงว่าไม่มีเงิน จึงไปหลอกนายดําว่านายแดงมีแหวนเพชร
ํ
อยู่วงหนึ่ง ซึ่งเป็นเพชรแท้มีน้างามมาก นายดําจึงไปซื้อแหวนจากนายแดง
โดยที่นายแดงไม่ทราบถึงการ หลอกลวงของนายดํา ก็ไม่จัดเป็นการฉ้อฉล
โดยบุคคลภายนอกที่จะทําให้นิติกรรมเป็นโมฆียะ
3) ถ้าเป็นการฉ้อฉลเพียงเพื่อเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมรับข้อกําหนดที่
หนักกว่าจะบอกล้าง ไม่ได้ แต่ให้สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
ยกตัวอย่างเช่น นายแดงต้องการจตุคามรามเทพ รุ่นมหาเฮง มหารวย มาบูชา
ขณะที่เดินชมแผงของนายดําที่เปิดให้เช่าบูชาจตุคามรามเทพอยู่นั้น นายดํา
ได้บอกนายแดงว่า จตุคามรามเทพองค์นี้เป็นองค์นําฤกษ์ ซึ่งกดพิมพ์กันใน
พิธี มีจํานวนแค่ 9 องค์ เท่านั้นไม่ใช่รุ่นมหาเฮงมหารวยที่สั่งปั้มจากโรงงาน
แล้วมาปลุกเสก ที่เปิดบูชากันองค์ละ 500 บาท