Page 43 - 06_การปองกนและปราบปรามการทจรต_Neat
P. 43

๓๖




                             - การเปนพนักงานผูมีหนาที่จัดการดูแลกิจการใด เขามีสวนไดเสียเพื่อประโยชน
              สําหรับตนเองหรือผูอื่นเนื่องดวยกิจการนั้น (มาตรา ๙)

                             - การเปนพนักงานผูมีหนาที่จายทรัพย จายทรัพยนั้นเกินกวาที่ควรจาย เพื่อประโยชน
              สําหรับตนเองหรือผูอื่น (มาตรา ๑๐)
                             - การปฏิบัติหรือละเวนการปฏิบัติหนาที่โดยมิชอบ เพื่อกอใหเกิดความเสียหายแก
              ผูหนึ่งผูใด หรือปฏิบัติหรือละเวนการปฏิบัติหนาที่โดยทุจริต (มาตรา ๑๑)



                          ó.  ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÔ»ÃСͺÃѰ¸ÃÃÁ¹ÙÞNjҴŒÇ¡Òû‡Í§¡Ñ¹áÅлÃÒº»ÃÒÁ¡Ò÷بÃÔμ
              ¾.È.òõôò

                             เปนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ตราขึ้นเพื่อสรางกลไกและมาตรการในการปองกัน
              และปราบปรามการทุจริตของเจาหนาที่ของรัฐและผูดํารงตําแหนงระดับสูง ซึ่งในนิยามมาตรา ๔
              เจาหนาที่ของรัฐ นอกจากจะหมายความถึง ผูดํารงตําแหนงทางการเมือง ขาราชการหรือพนักงาน

              สวนทองถิ่นแลว ยังรวมถึงพนักงาน ผูปฏิบัติงาน หรือลูกจางของรัฐวิสาหกิจหรือหนวยงานอื่นของรัฐดวย
              และผูดํารงตําแหนงระดับสูง ยังหมายความรวมถึง กรรมการและผูบริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจดวย

              มาตรการที่กฎหมายกําหนดจึงมีลักษณะเปนมาตรการปองกันการกระทําทุจริตของบุคลากรเหลานั้น
              โดยรูปแบบและวิธีการทุจริตที่สะทอนใหเห็นในพระราชบัญญัติดังกลาว สรุปไดดังนี้
                             - หามเจาหนาที่ของรัฐดําเนินการในลักษณะเปนการขัดกันระหวาง ประโยชนสวน
              บุคคลและประโยชนสวนรวม ไดแก เปนคูสัญญา หรือมีสวนไดเสียในสัญญาที่ทํากับหนวยงานของรัฐ

              ที่เจาหนาที่ของรัฐผูนั้นปฏิบัติหนาที่ เปนหุนสวนหรือผูถือหุนในหางหุนสวนหรือบริษัทที่เขาเปน
              คูสัญญากับหนวยงานของรัฐที่เจาหนาที่ของรัฐผูนั้นปฏิบัติหนาที่ รับสัมปทานหรือคงถือสัมปทาน

              จากรัฐวิสาหกิจอันมีลักษณะผูกขาดไมวาทางตรงหรือทางออม หรือเปนหุนสวนหรือผูถือหุน
              ในหางหุนสวนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเขาเปนคูสัญญาในลักษณะดังกลาว เขาไปมีสวนไดเสีย
              ในฐานะเปนกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจางในธุรกิจของเอกชนซึ่งอยูภายใตการควบคุม
              ตรวจสอบ หรือกํากับดูแลของหนวยงานของรัฐที่เจาหนาที่ของรัฐผูนั้นสังกัดหรือปฏิบัติหนาที่อันอาจ

              ขัดตอประโยชนสวนรวมหรือความเปนอิสระในการปฏิบัติหนาที่ (มาตรา ๑๐๐)
                               - หามเจาหนาที่ของรัฐรับประโยชนทางทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใดจากบุคคล

              นอกจากทรัพยสินหรือประโยชนอันควรไดตามกฎหมายหรือกฎระเบียบขอบังคับที่ออกตามกฎหมาย
              เวนแตเปนการรับทรัพยสินหรือประโยชนตามธรรมจรรยา (มาตรา ๑๐๓)
                          จากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติดังกลาวขางตน สามารถนํามาสังเคราะห รูปแบบและ

              วิธีการทุจริตในองคกรภาครัฐ ไดดังนี้
                          (ñ) ¡Òû¯ÔºÑμÔ˹ŒÒ·ÕèËÃ×ÍãªŒÍ Ó¹Ò¨ã¹μ Óá˹‹§Ë¹ŒÒ·Õèã¹·Ò§áÊǧËÒ»ÃÐ⪹Ê ÓËÃѺ
              μ¹àͧËÃ×ͼٌÍ×è¹

                               รูปแบบการทุจริตนี้แสดงใหเห็นถึงการกระทําที่เปนการทุจริตอันเขาลักษณะของ
              หลักเกณฑ “การทุจริต” เพราะมีการปฏิบัติหนาที่หรือใชตําแหนงหนาที่เพื่อมุงแสวงหาประโยชน
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48