Page 54 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 54
๔๑
º··Õè ò
¡ÒÃ㪌¡®ËÁÒÂÍÒÞÒ
๑. วัตถุประสงคการเรียนรูประจําบทเรียน
เพื่อใหนักเรียนนายสิบตํารวจเขาใจในหลักการใชกฎหมายอาญา ดังนี้
๑. บุคคลจักตองรับโทษในทางอาญาตอเมื่อกฎหมายบัญญัติเปนความผิดและกําหนด
โทษไว ตามมาตรา ๒ และ
๒. การใชกฎหมายตองใชในสวนที่เปนคุณแกผูกระทําความผิด ตามมาตรา ๓
๒. สวนนํา
เมื่อมีการกระทําความผิดตามกฎหมายอาญาของไทยเกิดขึ้น การที่จะใชกฎหมายอาญา
ของไทยลงโทษผูกระทําความผิดจะตองคํานึงถึงขอเท็จจริง ดังนี้ คือ สถานที่ซึ่งการกระทําความผิด
ไดเกิดขึ้นลักษณะพิเศษของความผิดบางประเภท และสัญชาติของผูกระทําความผิดหรือสัญชาติของ
ผูเสียหาย หรือคุณสมบัติพิเศษโดยเฉพาะของผูกระทําความผิดและลักษณะของความผิด ในกรณีเชนนี้
หลักที่ใชในการพิจารณาในเรื่องนี้ มีอยู ๓ ประการ คือ หลักดินแดน หลักอํานาจลงโทษสากล
และหลักบุคคล
๓. เนื้อหา
ñ. ºØ¤¤Å¨Ñ¡μŒÍ§ÃѺâ·Éã¹·Ò§ÍÒÞÒμ‹ÍàÁ×èÍ¡®ËÁÒºÑÞÞÑμÔ໚¹¤ÇÒÁ¼Ô´áÅÐกํา˹´
â·ÉäÇŒμÒÁÁÒμÃÒ ò
ÁÒμÃÒ ò ÇÃäáá บัญญัติวา “บุคคลจะรับโทษในทางอาญาก็ตอเมื่อไดกระทําการ
อันกฎหมายที่ใชในขณะกระทํานั้นบัญญัติเปนความผิดและกําหนดโทษไว และโทษที่จะลงแกผูกระทํา
ความผิดนั้นตองเปนโทษที่บัญญัติไวในกฎหมาย” จากบทบัญญัติดังกลาว แยกพิจารณาได ดังนี้
๑. ผูกระทําไมตองรับผิดในทางอาญา หากกระทํานั้นไมมีกฎหมายบัญญัติไว
ในขณะกระทําวาเปนความผิด และกําหนดโทษไว ซึ่งตรงกับสุภาษิตกฎหมายวา “ไมมีความผิด ไมมีโทษ
หากไมมีกฎหมาย” ภาษาลาตินวา “Nullum crimen nulla poena sine lege” แปลเปนภาษาอังกฤษวา
“No crime nor punishment without law”
ตัวอยาง การกระทําชําเราผิดธรรมดามนุษย ไมมีกฎหมายบัญญัติวาเปนความผิด
ผูกระทําจึงไมมีความผิด (แตกฎหมายลักษณะอาญา รศ.๑๒๗ มาตรา ๒๔๒ บัญญัติลงโทษการกระทํา
เชนนี้ไว)