Page 88 - โครงการ เรื่อง การบัญชีการเงิน
P. 88
77
3. การเบิกชดเชยเงินสดย่อย เมื่อครบระยะเวลาที่กิจการกำหนด เช่น 1 สปดาห์ 2
ั
สัปดาห์หรือ 1 เดือน พนักงานรักษาเงินสดย่อยจะรวบรวมใบสำคัญจ่ายเงินสด
ย่อย หลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องมาขอเบิกชดเชยเงินสดย่อยที่จ่ายค่าใช้จ่ายไป เมื่อผู้ที่
รับมอบหมายตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานต่างๆ แล้ว ผู้มีอำนาจจะ
สั่งจ่ายเช็คเท่ากับจำนวนที่ขอเบิกชุดเชยตามรายงานจ่ายค่าใช้จ่ายที่พนักงานรกษา
ั
เงินสดย่อยจัดทำเสนอขึ้นมา
เงินขาดและเงินเกิน
ในกิจการที่ขายสินค้าเป็นเงินสดรายย่อยมีจำนวนมากรายต่อวัน เช่น ร้าน
สรรพสินค้า (Convenience Store) จำนวนเงินสดที่ได้รับจากการขายในแต่ละวันกับ
รายงานการรับเงินสดประจำวันอาจจะไม่ตรงกัน ผลต่างที่เกิดขึ้น คือ เงินขาดหรือเงินเกิน
ื่
เพอประโยชน์ในการควบคุมทางการบัญชีควรบันทึกเงินขาดหรือเงินเกินไว้ในบัญชีเงินขาด
และเกินบัญชีรายได้เบ็ดเตล็ดหรือค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดแล้วแต่กรณี กล่าวคือ ถ้าบัญชีเงิน
ขาดและเกินมียอดคงเหลือในบัญชีอยู่ด้านเดบิต ให้โอนปิดเข้าบัญชีค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
และถ้าบัญชีเงินขาดและเกินมียอดคงเหลือในบัญชีอยู่ด้านเครดิตให้โอนปิดเข้าบัญชีรายได้
เบ็ดเตล็ด
การพิสูจน์ยอดเงินฝากธนาคาร (Bank Reconciliation)
ถึงแม้ว่าเงินฝากธนาคารประเภทกระแสรายวัน (Current Account) ธนาคารจะ
ไม่มีการคิดดอกเบี้ยเงินฝากให้ แต่ก็เป็นระบบเงินฝากที่วงการธุรกิจนิยมใช้บรการจาก
ิ
ธนาคารเนื่องจากมีความสะดวกในการนำฝากและการเบิกถอนหรือการสั่งจ่าย เงินฝาก
ธนาคารประเภทกระแสรายวันนี้จะไม่มีสมุดคู่ฝาก (Pass Book) และมีเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วยใบนำเงินฝาก (Pay-in Slip หรือ Deposit Slip) เช็ค (Cheque หรือ
ิ
Check) และใบแจ้งยอดเงนฝากธนาคาร (Bank Statement)ดังได้กล่าวมาแล้วในหัวข้อ
เงินฝากธนาคาร ดังนั้น เมื่อกิจการได้รับใบแจ้งยอดเงินฝากธนาคารตามระยะเวลาที่
กำหนดแล้ว กิจการควรตรวจสอบรายละเอียดกับสำเนาใบนำเงินฝาก ต้นขั้วเช็คและสมุด
บันทึกเงินฝากธนาคารเงินฝากธนาคาร และยอดเงินฝากธนาคารคงเหลือตามสมุดบัญชีจะ
ไม่เท่ากัน จึงจำเป็นที่กิจการจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุดังกล่าว เพื่อแก้ไขและปรับปรุง