Page 73 - สังคม เศรษฐกิจ การเมืองไทย
P. 73
๖๔
๗. ผลกระทบที่ตามมากับความสัมพันธกับประเทศเพื่อนบาน โดยเฉพาะกรณีจีนฮอ
ซึ่งอาจสรางความเคลือบแคลงแกรัฐบาลพมาวารัฐบาลไทยใหการสนับสนุนชนกลุมนอย (??? แสดงวา
รัฐบาลไทยปฏิเสธมาโดยตลอดวาไมเคยสนับสนุนชนกลุมนอย และไมมีการพูดถึงกะเหรี่ยง)
๘. ความสงบเรียบรอยทางการปกครอง อาทิ จีนฮอเก็บภาษีเถื่อนและเรียกคาคุมครอง
ในหมูชาวเขา การสูรบกับพมานําไปสูความเสียหายบริเวณชายแดน รวมไปถึงกรณีชาวญวนอพยพ
๙. ปญหาการแบงแยกดินแดน โดยเฉพาะชาวไทยมุสลิมบางสวน ที่ทําการปลุกระดม
ใหเกิดความรูสึกเปนปฏิปกษกับรัฐบาล
¹âºÒÂáÅÐÁÒμáÒÃ㹡ÒÃᡌ䢻˜ÞËÒª¹¡ÅØ‹Á¹ŒÍ¡Ѻ¤ÇÒÁÁÑ蹤§¢Í§ªÒμÔ
รัฐบาลไทยเนนการแกปญหาแบบผสมกลมกลืน โดยใหชนกลุมนอยผสมกลมกลืน
กับชนกลุมใหญผานกระบวนการกลอมเกลาทางสังคม โดยทําใหชนกลุมนอยคอยๆ เปลี่ยนวิถีชีวิต
ความรูสึกนึกคิด ขนบธรรมเนียมประเพณีของตนใหกลมกลืนและสอดคลองกับวัฒนธรรมของ
ชนกลุมใหญจนในที่สุดชนกลุมนอยจะไมมีเอกลักษณเปนของตนเอง
นอกจากนี้แลว เราจะเห็นถึงความซับซอนในเรื่องของการเคลื่อนตัวของนโยบาย
การจัดการเรื่องชาติพันธุที่ซับซอนขึ้น จากเรื่องของชนกลุมนอย มาสูเรื่องของผูลี้ภัย มาถึงเรื่อง
ของแรงงานตางดาว ซึ่งในความเปนจริงเราอาจจะพบวาการทํางานของวิธีคิดและการปฏิบัติตอ
กลุมชาติพันธุนั้นมีการผสมผสานเรื่องเหลานี้เขาดวยกันมากกวาการแบงยุคสมัยที่ชัดเจนก็เปนได
อคติทางชาติพันธุ (ethnocentric) หมายถึง การประเมินคุณคาของสังคม วัฒนธรรมอื่นๆ
โดยใชตัวเราเองหรือสังคมวัฒนธรรมของเราเองเปนมาตรฐาน เชน มองวัฒนธรรมอื่นวาตํ่ากวา
นารังเกียจ
อคติทางชาติพันธุยังเกี่ยวพันกับเรื่องของความสัมพันธระหวางเชื้อชาติ (race relations)
ที่เปนเรื่องเกี่ยวกับขอแตกตางของลักษณะทางชีวภาพ และเกิดจากการกีดกัน ความลําเอียง และเลือก
ปฏิบัติ ประเด็นสําคัญก็คือกลุมที่ถูกเลือกปฏิบัติ (เชน ผิวดํา) กลายเปนผูดอยโอกาส และไมสามารถ
ปรับปรุงตัวเองใหดีขึ้นได กลุมดอยโอกาสจึงเปนกลุมดอยโอกาสตลอดไป
แนวคิดเรื่องชาติพันธุยังมีผูอธิบายเพิ่มเติมอีกวา มีประโยชนกวาแนวคิดเรื่องเชื้อชาติ
และสิ่งสําคัญนั้นมิไดอยูที่เรื่องของการคนหาความเปนจริงเบื้องหลังวาลักษณะเฉพาะของแตละกลุม
ชาติพันธุนั้นอยูที่ไหน หากแตสิ่งที่ควรสนใจก็คือกลุมชาติพันธุนั้นไมเคยดํารงอยูโดยไมสัมพันธกับ
กลุมชาติพันธุอื่นๆ ดังนั้นสิ่งที่สําคัญจึงอาจมิไดอยูที่การจดบันทึกชาติพันธุวรรณา หากแตอยูที่เรื่อง
ของความสัมพันธระหวางกลุม ซึ่งแตละกลุมนั้นจะรูสึกวากลุมตนนั้นมีลักษณะเฉพาะ ขณะเดียวกัน
กลุมแตละกลุมนั้นก็อาจมีสถานภาพทางสังคมที่ไมไดอยูในระนาบเดียวกันก็อาจเปนได (สวนสําคัญ
ที่มักจะมีในปจจัยรวมทางวัฒนธรรม ไดแก ความเชื่อวากลุมของตนมีที่มาและบรรพบุรุษรวมกัน)
และขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงการอางอิงตัวเองกับกลุมชาติพันธุนั้นก็เกิดขึ้นได และทําใหเรื่อง