Page 12 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 12
๕
๔. ¡ÒÃÊÑ觤´Õ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาใหอํานาจในการฟอง
หรือสั่งไมฟองคดีแก¾¹Ñ¡§Ò¹ÍÑ¡Òà ซึ่งพนักงานอัยการจะพิจารณาสํานวนที่พนักงานสอบสวนรวบรวม
พยานหลักฐานตาง ๆ สงมาให เมื่อพนักงานอัยการไดพิจารณาสํานวนการสอบสวนนั้นแลว และเห็นวา
ขอเท็จจริงมีครบถวนก็จะสั่งฟอง หรือเห็นวายังไมสมบูรณ ก็สั่งสอบสวนเพิ่มเติม หรืออาจสั่งไมฟอง
ก็ไดเพราะเปนอํานาจของพนักงานอัยการ กรณีที่พนักงานอัยการเห็นวาสํานวนการสอบสวนสมบูรณ
แลว ก็จะออกคําสั่งสั่งฟอง รางคําฟองยื่นฟองคดีตอศาลที่มีอํานาจตอไป
ñ.ô.ò ¢Ñé¹μ͹ËÅѧ¿‡Í§¤´Õ
ภายหลังที่พนักงานอัยการหรือผูเสียหายเปนโจทกยื่นฟองตอศาลชั้นตนแลว
ศาลชั้นตนจะดําเนินการดังนี้
๑. ¡ÒÃμÃǨ¿‡Í§ กอนที่ศาลจะสั่งรับฟองไวพิจารณานั้น ผูพิพากษาจะตรวจ
คําฟองที่ยื่นมานั้น วาถูกตองตามแบบที่กําหนดไวในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา ๑๕๘ หรือไม และพิจารณาวาศาลของตนนั้นมีอํานาจที่จะรับฟองไวพิจารณาหรือไม
ถาผูพิพากษาตรวจแลวเห็นวาคําฟองนั้นไมถูกตอง ก็จะสั่งใหมีการแกไขใหถูกตอง หรืออาจสั่งไมประทับ
ฟองหรือยกฟองเสียก็ได ขึ้นอยูกับดุลยพินิจของผูพิพากษา
๒. ¡ÒÃäμ‹ÊǹÁÙÅ¿‡Í§ เปนการที่ผูพิพากษาที่รับผิดชอบในคดีนั้น ๆ จะทําการ
ไตสวนมูลฟอง เพื่อที่จะวินิจฉัยถึงมูลคดีที่ฟองนั้นวามีเหตุเหมาะสม นาเชื่อถือเพียงพอที่จะดําเนินการ
ตอไปหรือไม มีขอมูลนาเชื่อไดวาบุคคลนั้น ๆ เปนผูกระทําความผิดหรือไม อยางไร
โดยปกติแลวถาเปนคดีที่พนักงานอัยการเปนโจทกฟอง ศาลจะประทับ
รับฟองโดยไมทําการไตสวนมูลฟองกอนก็ได (มาตรา ๑๖๒ (๒)) แตถากรณีราษฎรเปนโจทกฟอง เชนนี้
ผูพิพากษาจะทําการไตสวนมูลฟอง เนื่องจากกรณีที่ผูเสียหายฟองเองนั้นไมไดผานตรวจสอบขอมูล
จากพนักงานสอบสวนมากอน เมื่อไมไดผานการกลั่นกรองเชนนี้ ก็อาจมีการกลั่นแกลงกันไดงาย ดังนั้น
กฎหมายจึงกําหนดใหมีการไตสวนมูลฟอง (มาตรา ๑๖๒ (๑))
๓. ¡ÒþԨÒÃ³Ò เปนการคนหาความจริงจากพยานหลักฐานที่คูกรณีฝายที่เปน
ผูฟองหรือโจทกนําเสนอเพื่อชี้ใหเห็นวาคูกรณีที่ตนฟองรองนั้นเปนผูที่ไดกระทําความผิดตามที่ตน
ฟองจริง ขณะเดียวกันฝายที่ถูกกลาวหาวาเปนผูกระทําความผิด ก็จะแสดงพยานหลักฐานเพื่อชี้ให
เห็นวาตนไมไดเปนผูกระทําความผิดตามที่ฝายโจทกกลาวหา
๔. ¡ÒþԾҡÉÒ เมื่อคูกรณีทั้งฝายโจทกและจําเลยไดนําเสนอพยานหลักฐาน
ขึ้นมาในชั้นพิจารณาคดีแลว ผูพิพากษาก็จะพิจารณาพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝายเสนอมาวาฝายใดมี
ความนาเชื่อถือ ถาพยานหลักฐานของฝายโจทกนาเชื่อถือก็จะพิจารณาพยานหลักฐานของฝายจําเลย
วาจําเลยมีพยานหลักฐานสามารถหักลางพยานหลักฐานของฝายโจทกไดหรือไม ถาหักลางไดก็จะ
พิพากษายกฟอง ถาหากหักลางไมไดก็จะพิพากษาลงโทษจําเลยไดมากนอยเพียงใด ตามบทลงโทษ
และกฎเกณฑที่กฎหมายไดกําหนดไว