Page 160 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 160

๑๕๓




                 แจงใหเจาพนักงานตํารวจเขาคน เชน ส.ต.ต.ดํา กําลังปฏิบัติหนาที่สายตรวจอยูไดเห็นวัยรุนกลุมหนึ่ง
                 กําลังเสพยาเสพติดอยูภายในบานหลังหนึ่ง เชนนี้ เปนความผิดซึ่งหนาที่เจาพนักงานตํารวจไปพบเห็น

                 ดวยตนเอง ส.ต.ต.ดํา จึงมีอํานาจเขาไปในบานหลังดังกลาว เพื่อจับตัวผูกระทําความผิดนั้นได


                 μÑÇÍ‹ҧคํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաÒ

                                           คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·Õè ññöô/òõôö  เจาพนักงานตํารวจไดขอความยินยอม
                 จาก น. มารดาจําเลยซึ่งเปนเจาของบานที่เกิดเหตุกอนทําการคน แสดงวาการคนกระทําขึ้น

                 โดยอาศัยอํานาจความยินยอมของ น. และการคนโดยไมมีหมายคนที่ออกโดยศาลอนุญาตใหคนได
                 ก็หาไดเปนการคนโดยมิชอบไม นอกจากนี้กอนที่เจาพนักงานตํารวจจะดําเนินการคนไดเห็นจําเลย
                 ซึ่งอยูในหองนอนโยนเมทแอมเฟตามีนออกไปนอกหนาตาง อันเปนกรณีที่เจาพนักงานตํารวจพบจําเลย

                 กระทําความผิดซึ่งหนา และไดกระทําลงไปในที่รโหฐาน เจาพนักงานตํารวจยอมมีอํานาจจับจําเลยได
                 โดยไมตองมีหมายจับหรือหมายคนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๗๘ (๑),

                 ๙๒ (๒) เมทแอมเฟตามีนที่เจาพนักงานตํารวจยึดไดจึงนํามารับฟงประกอบคํารับสารภาพของจําเลยได
                                     (ó) àÁ×èͺؤ¤Å·Õèä´Œ¡ÃзíÒ¤ÇÒÁ¼Ô´«Öè§Ë¹ŒÒ¢³Ð·Õè¶Ù¡äÅ‹¨ÑºË¹ÕࢌÒä»ËÃ×ÍÁÕ
                 àËμØÍѹṋ¹á¿‡¹¤ÇÃʧÊÑÂÇ‹Ò䴌ࢌÒ仫ء«‹Í¹μÑÇÍÂÙ‹ã¹·ÕèÃâ˰ҹ

                                           ในกรณีของมาตรา ๙๒ (๓) หากพิจารณาแลวจะเห็นไดวาเปนกรณีที่เขา
                 เหตุความผิดซึ่งหนาในประเภท “ถือวาความผิดนั้นเปนความผิดซึ่งหนา” ตามความหมายของประมวล

                 กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๐ วรรคสอง (๑)  (เกียรติขจร  วัจนะสวัสดิ์, ๒๕๕๓)
                                           ดังนั้น ในกรณีที่เจาพนักงานตํารวจพบบุคคลกระทําความผิดซึ่งหนา และจะ
                 เขาจับกุม ปรากฏวาในขณะนั้นผูที่กระทําผิดนั้นหลบหนีเขาไปในที่รโหฐานตอหนาเจาพนักงานตํารวจผูนั้น

                 หรือกรณีที่เจาพนักงานตํารวจพบผูกระทําความผิดซึ่งหนา แลวไลจับแตมีการคลาดสายตาไป แตเนื่องจาก
                 มีเหตุแนนแฟน เชน มีพลเมืองดีหลายคนบอกใหทราบวา ผูกระทําผิดหลบหนีเขาไปยังที่รโหฐานนั้น

                 หรือบริเวณดังกลาวมีสถานที่นั้นเพียงแหงเดียวที่เปนที่รโหฐานที่จะหลบหนีไดเชนนี้ เจาพนักงานตํารวจ
                 ผูกําลังติดตามผูกระทําความผิดนั้นสามารถเขาไปคนยังที่รโหฐานเพื่อจับตัวบุคคลได

                                     (ô) àÁ×èÍÁÕ¾ÂÒ¹ËÅÑ¡°Ò¹ตามสมควรวาสิ่งของที่มีไวเปนความผิดหรือไดมา
                 โดยการกระทําความผิดหรือไดใชหรือมีไวเพื่อจะใชในการกระทําความผิด หรืออาจเปนพยานหลักฐาน
                 พิสูจนการกระทําความผิดไดซอนหรืออยูในนั้น ประกอบทั้งตองมีเหตุอันควรเชื่อวาเนืื่องจากการเนิ่นชา

                 กวาจะเอาหมายคนมาได สิ่งของนั้นจะถูกโยกยายหรือทําลายเสียกอน
                                           การคนโดยไมมีหมายคนในกรณีมาตรา ๙๒ (๔) นี้ เจาพนักงานตํารวจ

                 จะเขาคนในที่รโหฐานโดยไมมีหมายคนไดตอเมื่อประกอบเงื่อนไข ๒ ประเภท คือ
                                           ๑.  ÁÕ¾ÂÒ¹ËÅÑ¡°Ò¹¾ÍÊÁ¤ÇÃÇ‹Ò มีสิ่งของที่มีไวเปนความผิดหรือไดมา
                 โดยการกระทําผิด หรือไดใชหรือมีไวเพื่อใชในการกระทําความผิด หรือสิ่งของที่อาจเปนพยานหลักฐาน

                 พิสูจนการกระทําความผิดไดซอนอยูในที่รโหฐานนั้น และ
   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165