Page 36 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 36

๒๙




                                     นายเอ ทะเลาะกับนายบี เบื้องตน เพราะเหตุที่นายเอ มักจะจอดรถขวางประตู
                 บานนายบี อยูเสมอ และนายบี ไดบอกกลาวแลวหลายครั้ง นายเอ ก็ยังคงจอดรถขวางประตูบานนายบี

                 เชนเดิม วันเกิดเหตุ นายบี ไดตอวานายเอ ขณะที่กําลังจะจอดรถขวางประตู ทําใหนายเอ ไมพอใจ
                 จึงเกิดการทะเลาะกันอยางรุนแรง นายบี ตอบโตไมได จึงเดินเขาไปยังบานพักของตนเอง เพื่อจะไปเอา

                 ปนมายิงขูนายเอ แตปรากฏวาไมพบนายเอ เนื่องจากนายเอ เขาไปในบานกอน นายบี จึงนั่งถือปน
                 รอนายเอ อยูภายในบานของตน เชนนี้ จะเห็นไดวากรณีดังกลาวการกระทําของนายบี อยูใน¢Ñé¹μÃÐàμÃÕÂÁ

                 กระทําความผิดเกี่ยวกับชีวิตรางกาย ซึ่งกรณีดังกลาวäÁ‹ÁÕ¡®ËÁÒºÑÞÞÑμÔãËŒμŒÍ§ÃѺ¼Ô´ã¹¢Ñé¹
                 μÃÐàμÃÕÂÁ ดังนั้น นายเอ จึงมิใชผูเสียหายที่จะมาฟองรองนายบี ในความผิดเกี่ยวกับชีวิตรางกายได



                             ò.ò.ò Áպؤ¤Åä´ŒÃѺ¤ÇÒÁàÊÕÂËÒ¨ҡ¡ÒáÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´

                                     จากคํานิยามศัพท มาตรา ๒ (๔) บัญญัติไวอยางชัดเจนวา ผูเสียหาย หมายถึง
                 “บุคคลผูไดรับความเสียหายเนื่องจากการกระทําความผิดฐานใดฐานหนึ่ง”

                                     ๑)  ดังนั้น ผูเสียหายในคดีอาญา ¨ÐμŒÍ§à»š¹ºØ¤¤ÅμÒÁ¡®ËÁÒÂเทานั้น

                 ซึ่งหมายความถึงบุคคลที่เปนมนุษย และนิติบุคคลซึ่งหมายถึงบุคคลที่กฎหมายสมมุติขึ้นใหมีสิทธิ
                 หนาที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายเชนเดียวกับบุคคลธรรมดา และสามารถทํากิจกรรมภายใต
                 วัตถุประสงคที่กําหนดไวได ซึ่งแยกเปนนิติบุคคลตามกฎหมายเอกชน (บริษัทจํากัด หางหุนสวนจํากัด

                 หางหุนสวนสามัญจดทะเบียน สมาคม มูลนิธิ) และนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน (กระทรวง ทบวง

                 กรม องคกรมหาชนฯ องคการบริหารสวนทองถิ่น จังหวัด วัดที่ไดรับพระราชทานวิสุงคามสีมา)
                 ตลอดจนกรณีมีกฎหมายกําหนดสถานะใหเปนนิติบุคคล

                                          ในกรณีที่มิใชบุคคลตามที่กฎหมายกําหนด เชน กลุมเกษตรกร, สํานักสงฆ,
                 กองทุนเงินชวยเหลือเพื่อนรวมรุน เหลานี้ มิไดเปนนิติบุคคลซึ่งไมอาจเปนผูเสียหายในคดีอาญาได


                  ¢ŒÍÊѧà¡μ
                         ๑.  วัดของคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิก เปนนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติวาดวยลักษณะฐานะของวัด
                  บาทหลวงโรมันคาทอลิกในกรุงสยาม ร.ศ.๑๒๘ ขอ ๑ และขอ ๒ วรรคแรก วรรคสอง ซึ่งระบุใหมีฐานะเปนบริษัท จึงเปน
                  นิติบุคคลตามกฎหมายพิเศษฉบับนี้
                         ๒.  ในกรณีที่ไมไดเปนนิติบุคคลตามกฎหมาย เชน สํานักพิมพ ศาลเจา หรือกองทุนตาง ๆ ที่ไมไดจดทะเบียนเปน
                  นิติบุคคล ซึ่งไมอยูในฐานะบุคคลที่จะเปนผูเสียหายได แตไดมีคําพิพากษาศาลฎีกาหลายฉบับที่แสดงใหเห็นวา ¼ÙŒ·ÕèÁÕ˹ŒÒ·Õè
                  ÃѺ¼Ô´ªÍºã¹¡Ô¨¡ÒùÑé¹ æ สามารถมารองทุกขดําเนินคดีกับผูกระทําความผิดได
                  (คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๓๘๖/๒๕๔๑, คําพิพากษาฎีกาที่ ๖๖๐๐/๒๕๔๙)
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41