Page 17 - ภาวะผู้นำทางการเมือง ทักษิณ E-BOOK
P. 17
แนวคิดเกี่ยวกับภาวะผู้น าทางการเมือง (Political Leadership)
Lewis J. Edinder (อ้างถึงใน กษิระ ศรีเจริญ. 2535 : 30) กล่าวว่า ผู้น าทางการเมือง คือ
ความสามารถของผู้ที่มีต าแหน่งหน้าที่ที่จะต้องชี้น าพฤติกรรมร่วมของกลุ่มไปในทิศทางที่ต้องการ ภายใต้การ
จัดสรรสิ่งที่มีคุณค่าในเชิงอ านาจหน้าที่ภายในชุมชนหนึ่งๆ
Dlenn D. Paoge (อ้างถึงใน กษิระ ศรีเจริญ. 2535 : 31) กล่าวว่า ภาวะผู้น าทางการเมือง คือ
พฤติกรรมของบุคคลในต าแหน่งหน้าที่ต่างๆ ทางการเมือง คู่แข่งของบุคคลเหล่านี้และพฤติกรรมของบุคคลทั้ง
สองพวกนี้มีต่อสมาชิกคนอื่นๆ ของสังคม ดังที่แสดงออกทั้งในอดีต ปัจจุบัน และบางทีในอนาคตทั่วโลก
ส าหรับ Jame Macgregor Burns (อ้างถึงใน กษิระ ศรีเจริญ. 2535 : 31) แม้ว่าจะไม่ได้ให้
นิยามเกี่ยวกับภาวะผู้น าทางการเมืองโดยตรง แต่ก็ได้ให้ค าอธิบายที่เกี่ยวกับภาวะผู้น าทางการเมืองว่า “ผู้น า
ทางการเมืองนั้น ขึ้นอยู่กับความเป็นมาอันยาวนานของกระบวนการทางสังคมและทางชีววิทยาของบุคคล เป็น
ปฏิสัมพันธ์ของบุคคลกับโครงสร้างของโอกาสทางการเมืองและเปิดโอกาสดังกล่าว เป็นการแสดงบทบาทต่อ
กันของบุคคลระหว่างการเรียกหาหลักการต่างๆ ทางศีลธรรม และการยอมรับความจ าเป็นของอ านาจ”
จะเห็นได้ว่า ภาวะผู้น าทางการเมืองนั้นเป็น “ศิลปะ” ที่จ าเป็นและส าคัญยิ่งของผู้น าทาง
การเมือง ทั้งนี้ก็เพราะว่า ผู้น าทางการเมืองนั้น เป็นผู้ที่ท าหน้าที่ในการตัดสินใจ การวินิจฉัยสั่งการ การก าหนด
นโยบาย การวางแผนจูงใจ ให้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจ (กษิระ ศรีเจริญ. 2535 : 31)
แนวคิดในการวิเคราะห์ : กรณีศึกษา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
จากการศึกษาประวัติและบทบาททางการเมืองของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร พบว่าสามารถน ามา
วิเคราะห์ให้สอดคล้องกับแนวคิดของนักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศได้หลายแนวคิด แต่ผู้ศึกษานั้นเห็นว่ามี
แนวคิดในเรื่องของ “คุณสมบัติของผู้น าที่ดี” นั้นสามารถน ามาวิเคราะห์ในประเด็นของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
ได้ ดังนี้
1. แนวคิดคุณสมบัติของผู้น าทางการเมืองที่ดีของ Ordway Tead (1935)
ในอดีตเคยมีคนเชื่อว่า คนที่จะเป็นผู้น าได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อ “เป็นผู้น าอย่างแท้จริง
เท่านั้น” (Born to be a leader) ซึ่งได้แก่ ผู้ที่เกิดมามีบุญหนักศักดิ์ใหญ่หรือเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพของการเป็น
ผู้น าเท่านั้น แต่ในปัจจุบันความเชื่อเช่นนี้ได้ “เปลี่ยนแปลง” ไป โดยนักวิชาการบางกลุ่มเชื่อว่า ความเป็นผู้น า
ไม่ใช่สิ่งที่มีมาตั้งแต่ก าเนิด แต่ทว่าสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นภายหลังได้ เพราะสิ่งที่ผู้น าส่วนใหญ่มีและช่วย
ให้พวกเขาสามารถท าหน้าที่ในการเป็นผู้น าคือ “การเรียนรู้” หรือพูดอย่างง่าน คือ ความเป็นผู้น าสามารถ
12