Page 185 - New โครงการ งานจักรยานยนต์
P. 185
182
11.2 ไฟเลี้ยว ไฟแตรและไฟเบรก
11.2.1 หน้ำที่ไฟเลี้ยว (Turn Signal Lights)
ไฟเลี้ยวเป็นไฟกะพริบ เพื่อเตือนให้ผู้ที่ใช้ ทางร่วมรู้ว่ารถคันหน้าก าลังจะเลี้ยวหรือ
แซงสัญญาณไฟเลี้ยวกะพริบเกิดจากรีเลย์ไฟ เลี้ยวในวงจรแสดงให้เห็นถึงการตัด ต่อวงจรไฟ
เลี้ยวอย่างสม่ าเสมอ ประมาณ 60-80 ครั้งต่อนาที รีเลย์ไฟเลี้ยวแบ่งเป็นแบบคอนเดนเซอร์
และแบบทรานซิสเตอร์ (Transistor)
11.2.2 รีเลย์ไฟเลี้ยวแบบคอนเดนเซอร์ (Capacitor-type Turn Signal Relays)
แบบคอนเดนเซอร์เป็นแบบเก็บประจุ และคายประจุไฟฟ้าไปกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า
เพื่อ สร้างสัญญาณไฟกะพริบผ่านคอนแทค
1. เมื่อเปิดสวิตช์จุดระเบิดไปยังต าแหน่ง ON กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านไปยังหน้าคอน
แทค P ผ่านไปยังขดลวด L และเก็บประจุใน คอนเดนเซอร์ C
2
2. เมื่อโยกสวิตช์ไฟเลี้ยวไปต าแหน่งเลี้ยว ซ้ายหรือขวา กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านหน้า
คอนแทค P และขดลวด L ผ่านสวิตช์ไฟเลี้ยวและหลอดไฟ เลี้ยว F หลอดไฟเลี้ยว
1
1
F และหลอดเตือนไฟเลี้ยว ที่หน้าปัด PL (Pilot Lamp) ลงดินครบวงจร ท าให้
1
1
หลอดไฟเลี้ยวและหลอดเตือนไฟเลี้ยวสว่างขึ้น
3. ในขณะเดียวกันเมื่อกระแสไฟฟ้าไหล ผ่านขดลวด L ท าให้แกนรีเลย์ที่ขดลวดพัน
1
อยู่ เกิดอ านาจแม่เหล็ก จึงให้คอนแทค P แยกออก จากกัน หลอดไฟเลี้ยวทุกหลอดจึง
ดับ
4. ในเวลานั้นคอนเดนเซอร์ก็จะคายประจุ ไฟฟ้าออก ผ่านขดลวด L และ L ท าให้
2
1
ขดลวด ทั้งสองมีอ านาจแม่เหล็กในการดูดหน้าคอนแทค ให้เปิดค้าง หลอดไฟเลี้ยวทุก
หลอดยังคงดับ
5. เมื่อคอนเดนเซอร์คายประจุหมดแล้ว p จะเริ่มต่ออีกครั้งด้วยแรงสปริง
กระแสไฟฟ้าจะ ไหลผ่าน P ขดลวด L และ L ไปยังสวิตช์ไฟเลี้ยว และหลอดไฟเลี้ยว
1
2
หลอดไฟเลี้ยวจะติดขึ้นอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งจะไหลผ่าน
ขดลวดเพื่อประจุ คอนเดนเซอร์กระแสไฟฟ้าจะ ไหลผ่านขดลวด L น้อยลง เมื่อ
2
คอนเดนเซอร์ ได้รับการประจุกระแสไฟฟ้าจนเต็ม แต่ขดลวด L ยังมีสนามแม่เหล็ก
1
อยู่ จึงดูดให้ P แยกออกจากกัน อีกครั้ง หลอดไฟเลี้ยวทุกหลอดดับ