Page 60 - การสืบสวนสอบสวน
P. 60
๕๓
สําหรับระยะเวลาในการยึดอายัดของกลางประเภทนี้ โดยปกติจะตองยึดอายัด
ไวจนกวาคดีจะถึงที่สุด เพราะพยานหลักฐานนั้นจะตองถูกนํามาใชตลอดการพิจารณาคดี ทั้งในชั้น
อุทธรณและฎีกา ดังปรากฏตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ÁÒμÃÒ øõ/ñ ในระหวางสอบสวน สิ่งของที่เจาพนักงานไดยึดไว ซึ่งมิใชทรัพยสิน
ที่กฎหมายบัญญัติไววา ผูใดทําหรือมีไวเปนความผิด ถายังไมไดนําสืบหรือแสดงเปนพยานหลักฐาน
ในการพิจารณาคดี เจาของหรือผูซึ่งมีสิทธิเรียกรองขอคืนสิ่งของที่เจาพนักงานยึดไว อาจยื่นคํารองตอ
พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการแลวแตกรณี เพื่อขอรับสิ่งของนั้นไปดูแลรักษาหรือใชประโยชน
โดยไมมีประกัน หรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกันก็ได
การสั่งคืนสิ่งของตามวรรคหนึ่งจะตองไมกระทบถึงการใชสิ่งของนั้นเปนพยาน
หลักฐาน เพื่อพิสูจนขอเท็จจริงในภายหลัง ทั้งนี้ ใหพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการมีคําสั่ง
โดยมิชักชา โดยอาจเรียกประกันจากผูยื่นคํารองหรือกําหนดเงื่อนไขอยางหนึ่งอยางใดใหบุคคลนั้น
ปฏิบัติ และหากไมปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือบุคคลดังกลาวไมยอมคืนสิ่งของนั้นเมื่อมีคําสั่งใหคืน
ใหพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แลวแตกรณี มีอํานาจยึดสิ่งของนั้นกลับคืนและบังคับตาม
สัญญาประกันเชนวานั้นได วิธีการยื่นคํารอง เงื่อนไขและการอนุญาตใหเปนไปตามที่กําหนดใน
กฎกระทรวง
ในกรณีที่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการมีคําสั่งไมอนุญาต ผูยื่นคํารอง
มีสิทธิยื่นคํารองอุทธรณคําสั่งตอศาลชั้นตน ที่มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาดังกลาวไดภายใน
สามสิบวัน นับแตวันที่ไดรับแจงการไมอนุญาต และใหศาลพิจารณาใหแลวเสร็จภายในสามสิบวัน
นับแตวันที่ไดรับอุทธรณ ในกรณีที่ศาลมีคําสั่งอนุญาต ศาลอาจเรียกประกันหรือกําหนดเงื่อนไขอยางหนึ่ง
อยางใดไดตามที่เห็นสมควร คําสั่งของศาลใหเปนที่สุด
ÁÒμÃÒ ñùô ถามีอุทธรณแตในปญหาขอกฎหมาย ในการวินิจฉัย ปญหา
ขอกฎหมายนั้นๆ ศาลอุทธรณจะตองฟงขอเท็จจริงตามที่ศาลชั้นตนวินิจฉัยมาแลวจากพยานหลักฐาน
ในสํานวน
ÁÒμÃÒ òòò ถาคดีมีปญหาแตเฉพาะขอกฎหมาย ในการวินิจฉัยปญหาขอ
กฎหมายนั้น ศาลฎีกาจะตองฟงขอเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณไดวินิจฉัยมาแลวจากพยานหลักฐานใน
สํานวน
ดังนั้น ของกลางประเภทนี้จึงถูกยึดอายัดจากเจาพนักงานเปนระยะเวลานาน
บางครั้งอาจเสียหายไปกับการตรวจพิสูจนและบางครั้งไมมีคําสั่งเกี่ยวกับของกลางประเภทนี้ เนื่องจาก
พนักงานอัยการอาจไมไดมีคําขอทายฟองไป เพราะอาจไมมีผูใดแสดงความประสงคขอรับของกลาง
ประเภทนี้คืน แตมิไดหมายความวาผูเปนเจาของหรือมีสิทธิ์จะมาใชสิทธิ์เรียกรองในภายหลังไมได
เนื่องจากศาลไมไดมีคําสั่งริบ เชนนี้ เปนกรณีที่พนักงานสอบสวนและเจาพนักงานตํารวจผูมีหนาที่
สืบสวนคดีอาญา ที่รวมกันตรวจยึดอายัดมานั้น ตองแสวงหาขอเท็จจริงใหไดวา ผูมีสิทธิ์ในของกลาง
ประเภทนี้เมื่อคดีถึงที่สุดแลว ติดใจเกี่ยวกับของกลางประเภทนี้อยางไร หรือไม เพื่อใหขอเท็จจริง
ปรากฏตอพนักงานอัยการเกี่ยวกับการจัดทําคําขอทายฟองเกี่ยวกับของกลางประเภทนี้