Page 63 - การสืบสวนสอบสวน
P. 63
๕๖
ถือไมไดวาเปนการจูงใจจําเลยที่ ๑ เพื่อใหการ แตเปนการแจงใหจําเลยที่ ๑ ทราบถึงผลประโยชนที่จะ
ไดรับโดยชอบตามที่กฎหมายบัญญัติไว ถอยคําของจําเลยที่ ๑ เกี่ยวกับจําเลยที่ ๒ ในสวนนี้จึงรับฟง
เปนพยานหลักฐานได
กรณีผูตองหาใหการโดยการตัดสินใจของผูตองหาเอง มิใชเกิดจากการลอลวง ขูเข็ญ หรือ
ใหสัญญาของเจาพนักงาน ศาลรับฟงคําใหการดังกลาวได
พยานหลักฐานที่เกิดขึ้นเนื่องจากการขูเข็ญ เปนพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยมิชอบ
ฎีกาที่ ๔๗๓/๒๕๓๙ คํารับสารภาพที่ไดความวา หากจําเลยไมใหการรับสารภาพ
เจาพนักงานตํารวจก็จะตองจับกุมภริยาจําเลยและคนในบานทั้งหมดดวย เปนคํารับสารภาพที่มีเหตุ
จูงใจและบังคับใหกลัว ไมอาจรับฟงเปนพยานหลักฐานพิสูจนความผิดของจําเลยได
ฎีกาที่ ๑๗๕๘/๒๕๒๓ พยานที่เกิดจากขูเข็ญจูงใจวาจะใหพยานออกจากงานโดยรับ
บํานาญและไมจับกุมมาดําเนินคดี รับฟงไมไดตาม ป.วิ.อ.มาตรา ๒๒๖
พยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวง เปนพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยมิชอบ
ฎีกาที่ ๕๘๙/๒๔๘๔ พนักงานสอบสวนบอกกับผูตองหาคนหนึ่งวา มีผูรวมกระทํา
ความผิดคนอื่นเขารับสารภาพปรักปรําผูตองหาแลว ทั้งๆ ที่รูอยูวาไมเปนความจริงจึงใหการรับสารภาพ
และซัดทอดคนอื่นบาง เปนถอยคําที่เกิดจากการหลอกลวง ตองหามรับฟงเปนพยานหลักฐาน
หลักเกณฑ พยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือพยานบุคคล ซึ่งนาจะพิสูจนไดวาจําเลยมีผิด
หรือบริสุทธิ์ ใหอางเปนพยานหลักฐานได แตตองเปนพยานที่มิไดเกิดจากการจูงใจ มีคํามั่นสัญญา
ขูเข็ญหลอกลวงหรือโดยมิชอบประการอื่น (มาตรา ๒๒๖)
ตามมาตรา ๒๒๖ นี้ ไดกําหนดหลักเกณฑสําคัญเกี่ยวกับการรับฟงพยานหลักฐานในคดี
อาญาวา หามมิใหรับฟงพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยมิชอบเพื่อลงโทษจําเลยโดยเด็ดขาด โดยไมมี
ขอยกเวน ตางจากกรณีพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยชอบ แตไดมาจากการกระทําโดยมิชอบ หรือเปนพยาน
หลักฐานที่ไดมาโดยอาศัยขอมูลที่เกิดขึ้นโดยมิชอบ หรือขอมูลที่ไดมาโดยมิชอบตามมาตรา ๒๒๖/๑
ซึ่งมีขอยกเวนใหศาลรับฟงเปนพยานหลักฐานได หากการรับฟงพยานหลักฐานนั้นจะเปนประโยชน
ตอการอํานวยความยุติธรรมมากกวาผลเสียอันเกิดจากผลกระทบตอมาตรฐานของระบบงานยุติธรรม
ทางอาญา หรือสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน
พยานที่จะพิสูจนวาจําเลยมีความผิดหรือบริสุทธิ์ อาจเปนพยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือ
พยานบุคคล แตพยานดังกลาวตองมิไดเกิดจากการจูงใจ มีคํามั่นสัญญา ขูเข็ญ หลอกลวง หรือโดย
มิชอบดวยประการอื่น
¾ÂÒ¹ËÅÑ¡°Ò¹·Õèä´Œà¡Ô´¢Öé¹ÁԪͺ»ÃСÒÃÍ×è¹
พยานที่จะอางเพื่อพิสูจนวาจําเลยมีความผิดหรือบริสุทธิ์อีกประการหนึ่งก็คือ พยานนั้น
จะตองมิไดเกิดขึ้นโดยมิชอบประการอื่น (มาตรา ๒๒๖ ตอนทาย)