Page 82 - งานนำเสนอบท1_Neat
P. 82
81
พระรำชบัญญัติแรงงำนสัมพันธ์ พ.ศ. 2518
พระรำชบัญญัติแรงงำนสัมพันธ์ 2518 เป็นกฎหมายด้านสังคมก าหนดขึ้นมา
เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทแรงงานเกี่ยวข้องกันในการปฏิบัติต่อกันระหว่าง
นายจ้างกับลูกจ้างใน การท างานซึ่งมีผลกระทบต่อการบริการ การผลิต การท างานและความ
เป็นอยู่ของลูกจ้าง ซึ่งมีเนื้อหา รายละเอียด ดังนี้
1. พระรำชบัญญัติแรงงำนสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 เป็นกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ ใช้
บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างในกิจการทุกประเภท ยกเว้นหน่วยงานต่อไปนี้
1.1 รำชกำรส่วนกลำง
1.2 รำชกำรส่วนภูมิภำค
1.3 รำชกำรส่วนท้องถิ่น รวมทั้งราชการกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา
1.4 กิจกำรรัฐวิสำหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
1.5 กิจกำรอื่นใดที่ก ำหนดในพระรำชกฤษฎีกำ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศ
ไทย การท่า อากาศยานแห่งประเทศไทย
2. ท้อตกลงเกี่ยวกับสภำพกำรจ้ำง หมายถึง ข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
หรือ ** ระหว่างนายจ้างหรือสมาคมนายจ้างกับสหภาพแรงงานในเรื่องเกี่ยวกับสภาพการจ้างได้
บัญญัติไว้ในมาตรา 10 ถึง มาตรา 20 แยกพิจารณาได้ดังนี้
2.1 ก ำหนดให้สถำนประกอบกำรทุกแห่งที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป จัดให้มี
ข้อตกลง เกี่ยวกับสภาพการจ้าง เพื่อให้มีความชัดเจนในรายละเอียดต่าง ๆ ว่าจะให้ลูกจ้าง
ท างานอะไรมีชั่วโมงการท างาน เท่าใด หยุดงานวันใด เป็นต้น
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างนี้ให้ท าเป็นหนังสือ ในกรณีเป็นที่สงสัยว่าสถาน ประกอบการนั้น
มีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างหรือไม่ ให้ถือว่าข้อบังคับเกี่ยวกับการท างานที่นายจ้างต้องจัด
ให้มีตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามพระราชบัญญัติ
แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 นี้ (มาตรา 10)
2.2 ข้อควำมในข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างกฎหมายก าหนดให้มีรายละเอียด
อย่างน้อย 7 ข้อ (มาตรา 11) ดังนี้
2.2.1 รำยกำรเกี่ยวกับเงื่อนไขการจ้างหรือการท างาน
2.2.2 ก ำหนดวันและเวลำท ำงำน
2.2.3 ค่ำจ้ำง