Page 9 - โครงงานวิทย์
P. 9

น้าไปปักในวัสดุเพาะช้า  โดยปักให้ลึกประมาณ 1/3  ของแผ่นใบ  และเมื่อใบเริ่มแทงยอดโผล่จากวัสดุเพาะ

               ช้า  และที่ฐานรอยตัดเกิดรากมากพอก็ย้ายปลูกได้
                             3.2 การตัดช้าก้านใบ  เหมาะส้าหรับใบพืชขนาดเล็ก  และใบพืชชุ่มน ้า  ได้แก่  ใบเพปเพอโร

               เมีย  ใบอัฟริกันไวโอเล็ท  นอกจากนี อาจใช้กับใบพืชเนื อแข็งบางชนิด  เช่น มะกรูด  มะนาว  การปักช้าจะ

               เลือกใบค่อนข้างแก่ที่มีความสมบูรณ์  ขนาดใบปานกลาง  โดยตัดโคนก้านใบให้เหลือประมาณ  ½ – 1 นิ ว
               ด้วยมีดคม ๆ  น้าไปปักช้าในวัสดุเพาะช้าที่โปร่งและมีความชื นสูง  ปักใบให้ลึกพอมิดก้านใบแล้วน้าไปไว้ที่ชื น

                           3.3 การตัดช้าส่วนของใบ  การตัดช้าใบคล้ายการตัดช้าก้านใบ  แต่จะแตกต่างกันที่เป็นการตัดช้าใบ
               ที่มีขนาดโต  ดังนั นต้องตัดใบออกเป็นส่วนย่อย ๆ  ให้แต่ละส่วนของเส้นใบและแผ่นใบติดอยู่ด้วย  เช่น  การ

               ตัดช้าใบกล็อกซีเนีย  และใบบีโกเนีย  การตัดใบแบบนี จะมีส่วนของรอยตัดมาก  ประกอบกับเป็นพืชชุ่มน ้ามี

               โอกาสเน่าเสียง่าย  ดังนั นควรใช้ปลายมีดตัดส่วนของเส้นใบให้ขาดและห่างจากกัน  ส่วนบริเวณแผ่นใบเป็น
               บริเวณที่สร้างอาหารจะไม่ถูกตัดจะช่วยลดการเน่าเสียของแผ่นใบลงได้  และท้าให้การตัดช้าได้ผลดีขึ น  ส่วน

               การปักช้าจะวางใบไว้ในวัสดุเพาะช้าที่ชื นและร่ม  หลังจากที่ฐานรอยตัดเกิดต้นและราก ใบเก่าก็จะค่อย ๆ
                เสื่อมสภาพไปในที่สุด  แต่ละต้นที่เกิดจากฐานรอยตัดก็จะแยกตัวเป็นอิสระและเลี ยงตัวเองได้  ในระยะนี ต้นที่

               เกิดก็จะเจริญเป็นกลุ่ม ๆ  ซึ่งสามารถจะแยกไปปลูกได้

                        4. การตัดช้าใบที่มีตาติดอยู่  จะมีใบพร้อมก้านใบแล้วต้องมีส่วนของต้นและตาที่โคนก้านใบติดไป
               ด้วย  การตัดช้าวิธีนี ใช้ได้กับพืชทุกพืชที่ออกรากได้ไม่ยากด้วยการตัดช้าต้น  เหมาะกับพืชที่หาได้ยากและใบมี

               ขนาดโตพอ  เช่น  ยางอินเดีย  โกสน   ตลอดจนในส้มบางชนิดที่ออกรากง่ายและมีใบโต


               คุณสมบัติ ของส่วนประกอบในการท้าน ้ายาเร่งรากและประโยชน์


                 1. เครื่องดื่มชูก้าลัง

                       ที่มีส่วนผสมของสารคาเฟอีนในปริมาณไม่เกิน 50 มิลลิกรัม ต่อ 1 ขวด (100 - 150 มิลลิลิตร)


               เครื่องดื่มชนิดนี ส่วนใหญ่เน้นไปทางด้านพลังงาน นักวิทยาศาสตร์ได้ให้พื นฐานกับเครื่องดื่มชนิดนี ว่า เครื่องดื่ม
                                                                     [2]
               ชนิดนี มีความใกล้เคียงกันกับเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีน โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องดื่มชนิดนี จะนิยม
               ดื่มในหมู่ผู้ใช้แรงงาน และคนที่ท้างานหนักเนื่องจากเมื่อท้างานเสร็จร่างกายจะอ่อนเพลีย จึงต้องการพลังงาน

               ชดเชยกลับมา


               ส่วนประกอบของเครื่องดื่มชูก้าลัง

                         ส่วนใหญ่ในเครื่องดื่มชูก้าลังจะมีส่วนผสมที่ส้าคัญคือ Xanthine , วิตามินบี และสมุนไพร บางยี่ห้อก็
               ใส่ส่วนผสมเพิ่มเติมเช่น Guarana แปะก๊วย โสม บางยี่ห้อก็จะใส่น ้าตาลในปริมาณที่สูง บางยี่ห้อก็ถูกออกแบบ

               ให้มีพลังงานต่้า แต่ส่วนผสมหลักของเครื่องดื่มชูก้าลังก็คือคาเฟอีน ซึ่งเป็นส่วนผสมชนิดเดียวกันกับกาแฟหรือ

               ชา  เครื่องดื่มชูก้าลังส่วนใหญ่จะมีปริมาตร 237 มิลลิลิตรต่อขวด (ประมาณ 8 ออนซ์) มีสารคาเฟอีนประมาณ
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14