Page 119 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 119
ผู้อื่นก็ได้ จะไปโกรธเขาท�าไม อย่าจองกรรมท�าเวรกันเลย เวรย่อมไม่
ระงับเพราะตอบเวร ดิฉันอดกลั้นกลืนน�้าตาอย่างนี้ ไม่มีปฏิกิริยาตอบ
ดิฉันเสวยกรรมอยู่ในโลกมนุษย์สมควรแก่กรรม จุติจากมนุษย์โลก มา
เกิดบนสวรรค์ ดังที่ท่านเห็นอยู่ ณ บัดนี้ พระโมคคัลลานะได้น�าเรื่อง
นี้มาบอกแก่ชาวมนุษย์ให้ทราบผลของความดีว่าควรกระท�า
บางวันพระโมคคัลลานะลงไปสู่โลกนรก ลงไปครั้งไร นรกบรรลัย
ทุกครั้ง ลงไปสู่นรกขุมไหน ไฟในนรกขุมนั้นดับสนิท หาความร้อนมิได้
ยมบาลหยุดท�าโทษสัตว์นรกทันที เครื่องประหารสัตว์นรกหักท�าลาย
ป่นปี้หมด ด้วยอภินิหารของพระโมคคัลลานะ ใครจะฟ้องร้องว่าท่าน
ท�าลายทรัพย์ของยมโลกก็ไม่ได้ ไม่มีใครเป็นโจทก์ ไม่มีใครกล้าฟ้อง
ยมบาลได้แต่นั่งดูตากันปริบๆ ขืนไปต่อล้อต่อเถียงกับท่าน ไม่แน่ใจว่า
จะถูกบาตรทุ่มหัวหรือไม่ ยมบาลอวดเก่งแต่สัตว์นรกเท่านั้น พบพระเถระ
ผู้ทรงศีลเข้า เหมือนหนูพบแมว หรือเหมือนเนื้อพบเสือ สัตว์นรกชื่น
อกชื่นใจยกมือไหว้ท่วมหัว
อันการไหว้ยกมือท่วมหัวนี้ แสดงว่าทุกข์เต็มทน เป็นกิริยาของ
สัตว์นรก ถ้ามนุษย์เราไหว้อย่างนี้ ต้องถูกติว่าไหว้เหมือนสัตว์นรก
เป็นกิริยาไม่ดี พระโมคคัลลานะถามสัตว์นรกว่า สูเจ้าท�ากรรมอะไร
จึงมาเกิดในโลกเต็มไปด้วยทุกข์ทรมานเช่นนี้
สัตว์นรกบางตนตอบว่า อ้ายยมบาลแมวๆ นั้นมันแกล้งเอา
น�้าทองแดงกรอกใส่ปากผม ไส้กี่ขดๆ ไหม้ทะลุปรุโปร่งหมด มันไม่
เอ็นดูเลย บางทีอยู่ดีๆ มันเอาค้อนเหล็กมาเคาะหัวเล่น เคาะจนหัวน่วม
มันหัวเราะกันว่าสนุกดี หัวผมนี่เลวกว่าหัวหมาอีก
พระโมคคัลลานะถามว่า เมื่อสูเป็นคนนั้นท�ากรรมอะไร สัตว์นรก
ตอบว่าดื่มสุรา และพาลเตะ ด่าเมีย บางตนบอกว่า ทุบหัววัวเพื่อปรุงอาหาร
93
จรัมบุญ