Page 123 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 123
หนีออกทางช่อฟ้า พวกโจรพยายามจับตัวอยู่ถึง ๒ เดือนแล้ว ก็ยังจับ
ไม่ได้ ถึงเดือนที่ ๓ ก็ยังจับตัวไม่ได้ พระโมคคัลลานะแปลกใจคิดว่า
พวกโจรเคยกลัวเราๆ ท�าอิทธิฤทธิ์ครั้งเดียวก็กลัวจนตัวสั่น ครั้งนี้ท�าไม
จึงมาบ่อยนัก น่าจักเป็นจ�าพวกโจรหัวดื้อแน่นอน อันคนดื้อนั้นเทวดา
ก็ต้องกลัว โบราณพูดไว้อย่างนั้น อ้ายโจรหัวดื้อพวกนี้เล่นกับมันยาก
ท่านพิจารณาดูเหตุการณ์ของตน คือตรวจดูชะตากรรมด้วยญาณ
ก็พบว่า กรรมมาตามทันแล้ว หลีกไม่ได้ หลบไม่พ้น จ�าต้องยอมรับ
ผลของกรรม ต่อมาก็ยอมให้โจรจับไป พวกโจรดีใจเหมือนได้แก้ว
ที่ปราบพระโมคคัลลานะได้ มันลากคอไปทุบที่ป่าเปลี่ยว จะทุบตีเท่าไรๆ
ร่างกายไม่บอบซ�้า ไม่มีบาดแผล ไม่มีเลือดไหล แต่กระดูกหักป่น
เหมือนข้าวสาร ตัวน่วมนิ่มเหมือนปูนิ่ม พวกโจรคิดว่าตายแน่ จึงลาก
ร่างกายพระโมคคัลลานะโยนทิ้งไว้ในละเมาะ
เมื่อโจรหลบหนีไปแล้ว พระโมคคัลลานะเข้าฌานประสาน
กระดูกกลับดีดังเก่า การชอกช�้าหายไปสิ้น จึงเดินทางไปเฝ้า
พระพุทธเจ้า ทูลลาเข้านิพพาน พระพุทธเจ้าตรัสให้ท�าปาฏิหาริย์และ
เทศนาสอนประชาชน ท่านปฏิบัติตามพระด�ารัส แล้วไปปรินิพพานที่
กาฬศิลาประเทศ
ภิกษุทั้งหลายทราบข่าวการเข้านิพพานของโมคคัลลานะ และ
ทราบว่าถูกพวกโจรทุบจนกระดูกแตก จึงพูดกันว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
ท่านเรืองฤทธิ์ไม่มีใครสู้ ไฉนมาเสียทีพวกโจรได้ ค�าปรารภนั้นทราบ
ถึงพระพุทธเจ้า จึงตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อชาติก่อนโมคคัลลานะนี้เกิดเป็นบุตรคน
มั่งมีในเมืองพาราณสี เป็นคนขยันมาก ท�ากิจการทุกอย่างให้มารดาบิดา
หนักก็เอาเบาก็สู้ มารดาบิดารักและเอ็นดูลูกคนนี้ยิ่งนัก คิดเห็นว่า
97
จรัมบุญ