Page 212 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 212

“เทวดาช่วยดับไฟ?”





                                                                       ั
                    ื
                  เม่อเราขนมาอยู่เมืองฝางพร้อมกับท่านอาจารย์สุทัศครงแรกสุด
                          ึ
                          ้ำ
                                                                      ้ำ
                                                                     ั
            คือเม่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ โน้น วันหน่งช้่วงกลางคืน ตอนน้ำนมันเป็น
                  ื
                                                ึ
                            ิ
                                                             ั
            ฤดูแล้งไฟป่าก็เร่มไหม้ลามไปท่วดอยต่าง ๆ ดอยท่วภาคเหนือในหน้า
                                          ั
                                ั
            แล้งมีไฟป่าไหม้ท้ำงน้ำน ไฟป่าไหม้ลุกลามท่วทุกดอย ดอยท่เราอยู่ ไฟ
                                                     ั
                                                                     ี
                             ั
            มันก็ค่อย ๆ ไหม้ลามมาอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ไฟป่ามันเกิดเร่มมาจาก
                                                                      ิ
                                                               ู
                                                       ู
                             ั
                                                ั
                          ็
            ทตรงไหน เหนมนลามไหม้มาจากสนดอยลกไกลน้น ค่อยลามใกล้
              ่
              ี
            เข้ามา ๆ แล้วก็มาถ้ึงดอยท่พวกเราอยู่ ไฟไหม้ลามตามไหล่ดอยจาก
                                       ี
            บนลงมาเป็นหน้ากระดาน ไม่ใช้่ลุกโพลง ๆ หรอกนะ ไฟมันค่อยไหม้
            ลาม กรอบแกรบ กรอบแกรบ กรอบแกรบเป็นแถ้วดาหน้ากระดาน
                                                ี
            ลงมา นอกเสียจากว่าไปถ้ึงตรงไหนท่มันเจอกองเศษไม้แห้งสะสมกัน
            มาก ๆ จึงไหม้ลุกโพลงขนมาเป็นไฟกองใหญ่ วันนนช้่วงกลางวันมันก
                                                                               ็
                                    ึ
                                    ้ำ
                                                             ้ำ
                                                             ั
            ไหม้ลงมาจากบนสันดอยอยู่ตลอดวันอยู่แล้ว ตามไหล่ดอยส่วนมาก
                            ี
            มันเป็นป่าไผ่ ท่ว่าป่าก็เป็นกอไผ่เสียส่วนมาก ตามสันเขาสันดอยของ
                               ั
            ทางภาคเหนือโดยท่วไปมันจะมีต้นสน เรียกว่า สนสามใบ สนเก๊ยะ
                                                                            ี
                                                                  �้ำ
                                          �้ำ
                                                           �
            สนภูเขาเป็นพืช้ที่ค่อนข้างจะมีนามัน เราจะได้ยินคาว่า “นามันสน” เขา
                                                                       ิ
                                      ้ำ
            ก็คงสกัดเอาจากต้นไม้สนนกระมัง เราเคยสังเกตเห็นเขาใช้วธีไปถ้าก
                                                                      ้
                                      ี
            เปลือกของลำต้นไม้สน ถ้ากออกกว้างสักหน่อยแล้วใช้้ขวาน “มุย”
                                   ี
                                   ่
                                     �
            ฟันขุดเป็นโพรงเข้าไปทลาต้นของมัน แต่งรูปร่างให้เป็นแอ่งแล้วเอา
                                ั
                                ้ำ
            ไฟลน พอลนตรงนนมันกลายเป็นแผลไหม้เกรียมแล้วเขาก็กลับไป
               ี
                            ้ำ
                                                                          ้ำ
                                           ื
            ทีน้ำต้นสนก็ขับน�ายางออกมาเพ่อจะรักษาแผลของมัน ขับเป็นน�ามัน
            ออกมาฉ่าทีเดียวตรงรอยแผลไฟไหม้นนน่ะ เพราะคนเขาขดเป็นแอ่ง
                                                                     ุ
                     �
                                                 ั
                                                 ้ำ
                 ้ำ
                 ื
                                                ิ
            ในเนอไม้ น�ามันสนท่มันค่อย ๆ เยมออกมาก็มารวมกันในแอ่งนน
                                                                             ้ำ
                         ้ำ
                                  ี
                                                                             ั
                                                ้ำ
                                              ี
                                        ั
                                     �
                                              ่
                                     ้ำ
                 ั
                               ั
            ทหลงมาคนเขาก็ตกเอานามนสนนแหละไป ไม่ทราบว่าช้าวบ้านเขา
              ี
                    l
            198   พระพิชิต ชิตมาโร
   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216   217