Page 112 - JCI 7th edition - BPK9 hospital
P. 112
มาตรฐานการรับรอง JCI สำหรับโรงพยาบาล ฉบับที่ 7 112
อายุและผู้ป่วยที่ไม่สามารถปกป้องตนเองหรือส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ โรงพยาบาลต้องพยายามป้องกันการ
ถูกทำร้ายโดยใช้กระบวนการต่าง ๆ เช่น การสอบสวนบุคคลที่เข้ามาในสถานที่โดยไม่มีการบ่งชี้ตัวบุคคล การตรวจ
สอบหรือสอดส่องดูแลพื้นที่ที่อยู่ลับตาหรือพื้นที่เปลี่ยวและการตอบสนองต่อผู้ที่คิดว่าตกอยู่ในอันตรายจากการทำร้าย
ร่างกายอย่างรวดเร็ว
โรงพยาบาลมีการระบุผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง (เช่น ผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยพิการ หรือผู้ป่วยสูงอายุ) และกำหนดกระบวนการ
รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
ป้องกันสิทธิของผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องได้รับการปกป้องและหน้าที่ความรับผิดชอบของโรง
พยาบาล อาจถูกกำหนดโดยตัวบทกฎหมายและบุคลากรในโรงพยาบาล ต้องเข้าใจในบทบาทความรับผิดชอบใน
กระบวนการเหล่านี้ผู้ป่วยเด็ก ผู้พิการ หรือผู้สูงอายุและประชากรที่จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง
นอกจากนี้ยังรวมถึงกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวและผู้ป่วยที่มีสภาวะทางด้านจิตและอารมณ์ผิดปกติด้วย การปกป้อง
คุ้มครองผู้ป่วยนอกเหนือจากการทำร้ายร่างกายแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงการถูกล่วงละเมิด การกระทำรุนแรง การถูก
ละเลยหรือเพิกเฉยในการให้บริการหรือไม่ได้รับความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ (ดู FMS.5 และ FMS.8 ร่วม
ด้วย) ใช้อบรมภายใน
ห้ามจำหน่าย
องค์ประกอบที่วัดได้ของ PCC.1.5
❏ 1.โรงพยาบาลได้จัดทำกระบวนการเพื่อป้องกันผู้ป่วยจากการถูกทำร้ายร่างกายและถูกนำไปใช้
❏ 2.โรงพยาบาลระบุประชากรกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
❏ 3.โรงพยาบาลได้กำหนดกระบวนการที่ป้องกันกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้จากเหตุการณ์ความไม่
ปลอดภัยต่าง ๆ และกระบวนการดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้
❏ 4.โรงพยาบาลมีติดตามพื้นที่ห่างไกลหรือลับตาหรือสถานที่เปลี่ยวในโรงพยาบาล
___________________________________________________________________________
มาตรฐาน PCC. 2
ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในทุกแง่มุมของการบำบัดรักษาทางการแพทย์ผ่านการให้ความรู้ และมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมและการตัดสินใจในกระบวนดูแลรักษาการดังกล่าว ℗
เจตจำนงของ PCC.2
ผู้ป่วยและครอบครัวตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาผ่านการมีส่วนร่วมในกระบวนการดูแลรักษา ตั้งคำถามเกี่ยวกับ
การรักษาหรือการร้องขอความเห็นจากแพทย์ท่านอื่น (second opinion) รวมถึงการปฏิเสธทำหัตถการตรวจวินิจฉัย
หรือการบำบัดรักษา (ดู COP.7) ผู้ป่วยต้องการข้อมูลทางด้านสถานะสุขภาพพื้นฐานซึ่งพบในระหว่างการประเมินจึง
เป็นสิ่งจำเป็นในการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของผู้ป่วยและครอบครัว รวมถึงการยืนยันผลของการวินิจฉัยและ
แนวทางการรักษาและในระหว่างกระบวนการบำบัดรักษา โรงพยาบาลมีการวางแผนและให้ความรู้ผู้ป่วย (และ
ครอบครัวเมื่อจำเป็น) จะทำให้แน่ใจว่าผู้ป่วยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจการดูแลของตัวผู้ป่วยเอง และ

