Page 59 - BookHISTORYFULL.indb
P. 59
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระ
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์
ื
ั
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นพ้นฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยได้ระบุเจตนารมณ์ไว้ว่า
ื
ั
ี
ื
เพ่อให้การจัดการศึกษาข้นพ้นฐานสอดคล้องกับสภาพความเปล่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
สังคมและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ เป็นการสร้างกลยุทธ์ใหม่ในการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษา ให้สามารถตอบสนองความต้องการของบุคคล สังคมไทย ผู้เรียนมีศักยภาพใน
การแข่งขัน และร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในสังคมโลก ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสานึก
�
ในความเป็นไทย มีระเบียบวินัย คานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและยึดม่นในการปกครอง
�
ั
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นไปตามเจตนารมณ์มาตรา
๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และพระราชบัญญัติการ
ศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (ค�าสั่งกระทรวง
ศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๒๙๓ / ๒๕๕๑)
สาระประวัติศาสตร์ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นพ้นฐาน พุทธศักราช
ื
ั
๒๕๕๑ ยังคงไว้ซึ่งหลักการส�าคัญของการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในมาตรฐานการเรียนรู้ ๓
ี
�
ั
มาตรฐาน ดังท่กล่าวมาแล้ว โดยได้กาหนดตัวช้วัดช้นปี ในระดับประถมศึกษาและ
ี
ี
ื
มัธยมศึกษาตอนต้นและตัวช้วัดช่วงช้นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพ่อให้ใช้เป็นทิศทาง
ั
�
ั
ในการจัดทาหลักสูตรและการเรียนการสอนในแต่ละระดับนอกจากน้นได้กาหนดโครงสร้าง
�
ั
่
เวลาเรียนข้นตาของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละช้นปีไว้ในหลักสูตรแกนกลางและเปิด
ั
�
ั
โอกาสให้สถานศึกษาเพ่มเติมเวลาเรียนได้ตามความพร้อมและจุดเน้น อีกท้งได้ปรับ
ิ
กระบวนการวัดและประเมินผลผู้เรียน เกณฑ์การจบการศึกษาแต่ละระดับและเอกสารแสดง
หลักฐานทางการศึกษาให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และมีความชัดเจนต่อ
การน�าไปปฏิบัติ (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๑:๒ )
ิ
ี
ื
ั
ี
ท้งน้ได้มีการปรับปรุงและเพ่มเติมเน้อหาสาระประวัติศาสตร์ใหม่ท่ปรากฏในตัว
ช้วัดช้นปี และตัวช้วัดช่วงช้น ซ่งไม่เคยปรากฏในมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงช้นในหลักสูตร
ั
ั
ี
ึ
ี
ั
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ เพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนรู้ให้ชัดเจน และ
ึ
ิ
เหมาะสมย่งข้นในสถานการณ์ปัจจุบันท่เป็นโลกแห่งข้อมูลข่าวสาร โลกของกระแส
ี
วัฒนธรรมของประเทศที่มั่งคั่งทางเศรษฐกิจซึ่งอาจท�าลายวัฒนธรรมไทย และค่านิยมอัน
ดีงามต่างๆ ของไทยได้ รวมทั้งการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจประเทศเพื่อน
ี
ื
ื
บ้าน และภูมิภาคอื่นๆ เพ่อให้รู้เท่าทันและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่นในสังคมโลกท่มีความ
แตกต่างทางวัฒนธรรมได้อย่างสันติสุข
57