Page 95 - BookHISTORYFULL.indb
P. 95
ไปด้วยความซับซ้อน ความขัดแย้ง ความรัก ความชัง การพิทักษ์ การปกป้องในการที่จะ
ั
เข้าใจสังคมมนุษย์จึงต้องอาศัยท้งสติปัญญาและความสามารถทุกรูปแบบ จึงจะรู้จักอดีต
ของสังคมมนุษย์ได้อย่างแท้จริง
�
๓. ประวัติศาสตร์ในฐานะ “วิธีการศึกษาเร่องราวสาคัญๆ ท่เช่อว่าเกิดข้นจริง”
ี
ึ
ื
ื
ถือว่าเป็นหัวใจของประวัติศาสตร์ในแง่ของการสร้างความรู้ใหม่ ท่ทุกคนสามารถทาได้และ
ี
�
�
ู้
่
ื
ี
้
ั
ั
มคุณค่าสาคญมากต่อมนุษยชาติ เนองจากการสร้างสรรค์ความรในเชิงวิทยาการทงหลาย
ี
ี
ื
ในโลกน้เจริญสืบเน่องได้ตลอดมา ก็เพราะการศึกษาในแง่น้ ผู้สอนประวัติศาสตร์ต้องเข้าใจ
ก่อนว่า การเรียนรู้อดีตของสังคมมนุษย์โดยผู้สอนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ไม่ว่าจะอธิบาย
หรือจากการให้นักเรียนอ่านตามความสนใจใคร่รู้ของนักเรียนเองเป็นการ “รับความรู้”
่
ื
ู
ึ
ี
ั
้
ี
้
้
ี
้
ู
ี
้
้
ทมผอนไดศกษาไวกอนแลว แตความรในโลกน ยงมอกมากมายทยงไมมใครร โดยเฉพาะ
่
่
่
ี
ี
้
ู
ี
ั
่
่
ื
ี
ื
ื
ี
ในเร่องพฤติกรรม ความคิด ความเช่อและค่านิยมของมนุษย์ท่มีอยู่ในทุกพ้นท่ เช่น ประวัต ิ
ของตัวเราและครอบครัว ความเป็นมาของตระกูล หมู่บ้านและชุมชนท่เราอาศัยอยู่
ี
ศาสนสถาน ตลาด ประเพณี ล้วนเป็นเร่องท่อยู่ใกล้ตัวเราเองและเป็นเร่องท่เราทุกคน
ี
ี
ื
ื
ื
้
�
ี
สามารถสืบค้นหาความรู้เหล่านแล้วนามาเสนอผู้อ่นรู้ได้ เรียกว่าการสร้างความรู้หรือ
การเติมความรู้ให้แก่โลก
ี
ึ
วิธีการศึกษาเร่องราวท่เกิดข้นมาแล้วในสังคมมนุษย์ มีวิธีการท่ไม่ยากและเป็น
ี
ื
สิ่งที่ทุกคนสามารถท�าได้ในชีวิตประจ�าวันเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ในประวัติศาสตร์ได้จัด
ี
�
ี
ระเบียบเรียงลาดับข้นตอนเพ่อให้เป็นระบบท่ชัดเจนข้น โดยเร่มต้นท่ความอยากรู้อยากเห็น
ึ
ิ
ื
ั
�
ื
ึ
ื
ึ
ึ
เร่องใดเร่องหน่ง โดยท่ไม่สามารถหาคาตอบได้จากคนใดคนหน่งหรือหนังสือเล่มหน่งได้
ี
เราจึงต้องสืบสวนค้นคว้าหาค�าตอบประเด็นที่อยากรู้ดังกล่าวด้วยตนเอง
�
ี
คาถามท่เกิดข้น คือ เราจะหาคาตอบได้จากท่ไหน มีหนังสือเล่มไหนเขียนไว้
ึ
�
ี
หรือไม่ มีผู้รู้อยู่ที่ไหน ให้เราสอบถามได้บ้าง มีสถานที่ใดที่เราควรไปเพื่อหาค�าตอบนี้ได้
หรือไม่ บทบาทของผู้สร้างความรู้ใหม่คือการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
ี
ี
ึ
ิ
ส่งท่เป็นร่องรอยให้เราสืบค้นน้ เรียกว่า “หลักฐานทางประวัติศาสตร์” ซ่งหมายถึง
ส่งท่จะบอกร่องรอยในอดีตได้ ไม่ว่าคน ส่งของ สถานท่จะเป็นหลักฐานท่มนุษย์จงใจ
ี
ิ
ี
ี
ิ
สร้าง หรือไม่จงใจสร้างหรือหลักฐานท่มีลายลักษณ์อักษรหรือไม่มีลายลักษณ์อักษร
ี
ิ
ิ
ั
ล้วนเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ท้งส้น ส่งท่เราได้จากหลักฐานเราเรียก “ข้อมูล” หรือ
ี
“ข้อเท็จจริง” ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่ได้อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ทั้งนี้ เนื่องจาก หลักฐาน
ู
ื
้
่
ทางประวตศาสตรไม่วาจะเกิดขนดวยเหตใดก็ตาม มนษย์จะเป็นผเสนอเรองราวในหลกฐาน
่
้
ุ
ั
ิ
ึ
้
ุ
ั
์
เหล่าน้แทน เช่น นักโบราณคดีจะเป็นผู้อธิบาย โครงกระดูก ส่งของท่ขุดคุ้ย นักธรณีวิทยา
ี
ิ
ี
ุ
ั
่
ิ
้
ู
ิ
่
ี
้
ั
ิ
อธบายชนดน ชนหนทพบร่องรอยการตงถนฐานของมนษย์ นกภาษาโบราณเป็นผ้อ่าน
้
ั
ิ
ั
ี
ศิลาจารึกท่ผู้คนโบราณจัดสร้างข้น อันท่จริงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ท่ใช้
ี
ี
ึ
93