Page 75 - 40 ปี มูลนิธิเด็ก
P. 75
เราจึงสร้างโรงเรียนแบบใหม่ที่เรียกว่า “โรงเรียนทางเลือก” ให้เด็กได้มีเสรีภาพ
ในการเรียน
ี
ื
ั
การอ่าน การคิด การแลกเปล่ยน เม่อเราต้งหมู่บ้านเด็กมาระยะหน่ง
ึ
คนเริ่มเห็นด้วยกับเรา เอาแนวคิดนี้ไปจัดการศึกษาแบบ “เสรีภาพ” ในบ้านเรือนของ
ั
ี
ตัวเอง ท่เรียกว่า “Home School” ต่อมาก็มีคนต้งเป็นโรงเรียนท่ให้เสรีภาพใน
ี
การเรียน ที่เรียกกันว่า “โรงเรียนทางเลือก”
ั
ต่อมาความคิดเร่องโรงเรียนเสรีท่ให้เสรีภาพน้น ได้ถูกนำาไปบัญญัติไว้ในกฎหมาย
ื
ี
ั
ู
่
ี
ั
่
ิ
ี
ี
้
ิ
ุ
่
ึ
การศกษา หลงรฐธรรมนญ ๒๕๔๐ ทบญญตไววา “บคคลยอมมเสรภาพในทางวชาการ
ั
ั
การศึกษาอบรม การเรียนการสอน การวิจัย และการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการ
ย่อมได้รับความคุ้มครอง เท่าท่ไม่ขัดต่อหน้าท่ของพลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของ
ี
ี
ประชาชน” ในมาตรา ๔๒ หมวด ๓ สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย
แต่ในกฎหมายลูก ใช้คำาใหม่ว่า “การศึกษาแบบอัธยาศัย” ต่อมาจึงบัญญัติคำา
ว่า “การศึกษาทางเลือก” เข้าไปในรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ในมาตรา ๔๙ ย่อหน้าสุดท้าย
ว่า “การจัดการศึกษาอบรมขององค์กรวิชาชีพหรือเอกชน การศึกษาทางเลือกของ
ประชาชน การเรียนรู้ด้วยตนเอง และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ย่อมได้รับความคุ้มครอง
และส่งเสริมที่เหมาะสมจากรัฐ”
และในมาตรา ๕๒ ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป(ปี ๒๕๕๘) ก็ถูกนำามาเขียน
ไว้อีกว่า “รัฐมีหน้าที่ต้องจัดการศึกษาอบรมและส่งเสริม”
และต่อมาก็มีการยกร่างท่จะให้เด็กและพ่อแม่มีอำานาจในการจัดงบประมาณลง
ี
ไปที่ตัวเด็ก
ท่เรียกว่า “คูปองการศึกษา” หรือ “Education Vouchers” คล้ายกับท ี ่
ี
ี
กระทรวงสาธารณสุขนำาไปใช้ท่เรียกว่า “บัตร ๓๐ บาท หรือ บัตรทอง หรือ บัตรคนจน”
ึ
ท่สามารถรักษาได้ทุกโรค ซ่งบัตรคูปองการศึกษาก็จะมีความหมายเดียวกัน คือสามารถ
ี
นำาไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายการศึกษาได้ทุกเร่อง ซ่งรังสรรค์ ธนะพรพันธ์ุ ได้นำาเสนอไว้ใน
ื
ึ
73