Page 46 - สุขอนามัยฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
P. 46
โดยใช้ซุปเปอร์ชาร์จด้วยก็จะยิ่งดี เพราะลูกกุ้งที่ผ่านการขนส่งมายัง
ี
ฟาร์มมการอ่อนเพลีย ถ้าในบ่อมีปริมาณออกซิเจนสูงและมีความเค็ม
เล็กน้อยจากการใส่เกลือจะช่วยให้ลูกกุ้งฟื้นตัวเร็วและมีอัตรารอดที่สูง
เมื่อเปรียบเทียบกับบ่อที่ไม่มีการใช้เกลืออัตรารอดจะต่ำกว่ามาก
การให้อาหาร
ในระยะ 30 วันแรกควรให้อาหารวันละ 4 มื้อ เช่น 6.00
น., 12.00 น., 16.00 น. และ 20.00 น. ปริมาณอาหารสำหรับลูกกุ้ง
100,000 ตัว ให้อาหาร 1 กิโลกรัม/วัน หลังจากนั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นที
ละน้อยไปเรื่อยๆ ที่อายุ 30 วัน ลูกกุ้ง 100,000 ตัว ให้อาหาร
ประมาณ 4 กิโลกรัม/วัน ปริมาณอาหารอาจมากหรือน้อยกว่าระดับนี้
ก็ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารธรรมชาติในบ่อและอัตรารอดของลูกกุ้ง
หลังจาก 30 วัน ควรให้อาหารวันละ 3 มื้อ เวลา 6.00 น.,
12.00 น. และ 16.00 น. ลักษณะการให้อาหารจะแตกต่างกับการ
เลี้ยงกุ้งทะเล เช่น กุ้งกุลาดำที่ตามปกติอยู่ในช่วงเดือนแรกจะให้
อาหาร 3 - 4 ครั้ง/วัน แต่เมื่อกุ้งมีอายุเพิ่มขึ้นจะให้อาหารเพิ่มเป็น คู่มือวิชาการ เรื่อง แนวทางการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภท การเลี้ยงสัตว์น้ำ
4-5 ครั้ง/วัน สำหรับการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามส่วนใหญ่เกษตรกรยังคงให้
อาหารวันละ 2 ครั้ง คือ 6.00 น. และ 18.00 น. ตั้งแต่เริ่มปล่อย
ลูกกุ้งจนกระทั่งจับ แต่ในการเลี้ยงแบบพัฒนา จะให้อาหารระยะแรก
ถี่กว่าช่วงที่กุ้งโต เพราะให้ความสำคัญกับอัตรารอดของลูกกุ้งระยะ
แรก ส่วนในระยะที่กุ้งโตขึ้น การให้อาหารวันละ 3 ครั้งอยู่ในระดับที่
เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องให้จำนวนมากเท่ากับกุ้งกุลาดำ เนื่องจากกุ้ง
ก้ามกรามกินอาหารช้ากว่ากุ้งกุลาดำและกุ้งขาวมาก
ข้อควรระวังในการให้อาหาร ถ้าอุณหภูมิของน้ำต่ำโดย
เฉพาะในตอนเช้า เมื่ออุณหภูมิน้ำต่ำกว่า 28 องศาเซลเซียส ควรลด
39