Page 246 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13
P. 246
242
11-07 Poster Presentation
ชื่อเรื่อง : SMOOTH & SAFE ไร้รอยต่อด้วย ISBAR
ผู้นำเสนอ : ศศิมา โอนโคกกรวด
E-mail : anesthesia.suth@gmail.com เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน : 0 4437 6703
เบอร์โทรศัพท์มือถือ : 09 3323 6721
หน่วยงาน : หน่วยงานวิสัญญี โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
ความเป็นมาและความสำคัญ : การส่งต่อข้อมูลอาการของผู้รับบริการเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญในกระบวนการ
ดูแลรักษาผู้รับบริการ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างทีมทำให้เพิ่มความปลอดภัยในการส่งต่อข้อมูลขณะทำการ
ผ่าตัดและระงับความรู้สึก จากสถิติรายงานอุบัติการณ์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 - เดือนกุมภาพันธ์ 2562
พบจำนวนอุบัติการณ์การคลายสายระบายจากแผลผ่าตัดจำนวนร้อยละ 4.12 การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาแก้ปวดแบบ
ควบคุมเองร้อยละ2.67 ปริมาณเลือดคงเหลือร้อยละ 1.36 ปริมาณสารน้ำเข้า-ออก(CBI) ร้อยละ 0.23 จากผลการ
ทบทวนพบว่า การส่งต่อข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ไม่มีการจัดลำดับข้อมูล ข้อมูลที่ส่งต่อไม่มีความสำคัญในการดูแล
ผู้รับบริการ และไม่มีรูปแบบของการส่งต่อข้อมูลที่ชัดเจน ทำให้การดูแลผู้รับบริการขาดความต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่
หอผู้ป่วยต้องโทรกลับมาข้อมูลบ่อยครั้ง หน่วยงานพยาบาลวิสัญญี จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารที่มี
ประสิทธิภาพ โดยใช้รูปแบบ I-SBAR เป็นเครื่องมือในการสร้างรูปแบบพัฒนาคุณภาพการส่งต่อข้อมูลที่ได้มาตรฐาน
ง่ายต่อการจดจำ มีสอดคล้องกับบริบทของหน่วยงาน และได้น้อมนำการเรียนรู้บนพื้นฐานของศาสตร์พระราชาในองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยถ้อยคำที่ว่า เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา
และนำมาเชื่อมโยงกับวงจรการบริหารงาน คุณภาพ (PDCA) เพื่อให้ผู้รับบริการ มีความปลอดภัยและเกิดความ
เชื่อมโยงอย่างต่อเนื่องของการส่งต่อข้อมูล
วัตถุประสงค์ : เพื่อสร้างระบบการส่งต่อข้อมูลผู้รับบริการระหว่างทีมอย่างเป็นระบบ, เพื่อลดอุบัติการณ์ความ
ผิดพลาดในขั้นตอนการดูแลผู้รับบริการเนื่องจากการส่งต่อข้อมูลไม่มีประสิทธิภาพ
กิจกรรมการพัฒนา : ระยะก่อนการจัดทำ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้อง วิเคราะห์หาสาเหตุรากเหง้า
ของปัญหา มีการสอบถามถึงความต้องการของข้อมูลในการดูแลผู้รับริการเมื่อกลับไปยังหอผู้ป่วย ระยะจัดทำและ
ทดลองใช้ นำข้อมูลที่ได้มาสังเคราะห์สร้างรูปแบบการส่งต่อข้อมูล I-SBAR ข้อมูลมีความกระชับและมีความสอดคล้อง
กับบริบทของหน่วย ระยะดำเนินการ มีการจัดทำ Hand out การส่งต่อข้อมูล I-SBAR ฉบับพกพา และใช้เทคนิค
“HAND ME AN ISBAR”มาประยุกต์ใช้ในการส่งต่อข้อมูล
การวัดผลและผลของการเปลี่ยนแปลง : การพัฒนาคุณภาพการรับส่งเวรโดยใช้รูปแบบ I-SBAR เป็นเครื่องมือในการ
ส่งต่อข้อมูล พบว่าไม่เกิดอุบัติการณ์ผู้ป่วยได้รับอันตรายและความเสียหายจากการส่งต่อข้อมูลไม่ครบถ้วน และอัตรา
การโทรขอข้อมูลเพิ่มจากหน่วยงานที่ส่งต่อจากร้อย 12.52 ลดลง เป็นร้อยละ 1.55, 0.8 และ 0.4 ตามลำดับ
บทเรียนที่ได้รับ : การดูแลผู้รับบริการที่มารับการระงับความรู้สึกและการผ่าตัด ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของสห
สาขาวิชาชีพ การใช้เทคนิคการสื่อสารแบบ I-SBAR ทำให้มีแนวทางในการสื่อสารที่ครอบคลุมปัญหาผู้รับบริการมาก
ขึ้น ทำให้บุคลากรมีแนวทางในการส่งเวรเป็นไปในทางเดียวกัน ข้อมูลมีความกระชับ แต่คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ เพิ่ม
คุณภาพในการพยาบาล ผู้รับบริการเกิดความปลอดภัยและช่วยลดอุบัติการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
คำสำคัญ : การสื่อสาร, I-SBAR, การดูแลต่อเนื่อง, การส่งเวร, วิสัญญี
