Page 104 - เอกสารประกอบการสอน pdf
P. 104
บทที่ 6 การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามความสนใจพิเศษ 93
บทที่ 6
การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามความสนใจพิเศษ
(Sustainable Tourism-Special Interest Tourism)
บทน า
เนื้อหาในบทนี้ ยังคงมุ่งน าเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนซึ่งแบ่งออกตามประเภทของ
การท่องเที่ยว กล่าวคือ การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (Natural-Based Tourism)
การท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural-Based Tourism หรือ Man Made Tourism)
และการท่องเที่ยวตามความสนใจพเศษ (Special Interest Tourism) ซึ่งผู้เขียนได้ประยุกต์แนวคิดนี้
ิ
มาจัดแบ่งประเภทของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 3 รูปแบบ โดยในบทที่ 4 ได้น าเสนอรูปแบบการท่องเที่ยว
อย่างยั่งยืนบนฐานทรัพยากรธรรมชาติ และบทที่ 5 เป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนบนฐานมรดกวัฒนธรรม
และในบทนี้ จะเป็นการน าเสนอการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามความสนใจพเศษ กล่าวคือ เป็นรูปแบบหรือ
ิ
กิจกรรมการท่องเที่ยวที่พจารณาจากความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยว
ิ
อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในพนที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงวัฒนธรรม หรือในหน่วยที่เป็นธุรกิจ
ื้
การท่องเที่ยวและการบริการ ผู้เขียนจะเลือกน าเสนอรูปแบบการท่องเที่ยว 4 ประเภท ที่เป็นที่รู้จักและ
มีความส าคัญต่ออตสาหกรรมการท่องเที่ยวและจิตบริการไทย ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ุ
การท่องเที่ยวแบบไร้ความเร่งรีบ การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และการท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา
6.1 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism)
การทองเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ของประเทศไทยไดรับความนิยมเพมมากขึ้น
ิ่
ตามกระแสการรักษาดูแลสุขภาพ กอปรกับจุดแข็งของประเทศที่มีทรัพยากรการทองเที่ยวตามธรรมชาติ
อาหารไทย สมุนไพร การแพทยแผนไทย กีฬาทองถิ่น ศาสนา ตลอดจนการต้อนรับด้วยมิตรไมตรีของ
คนไทย นอกจากนี้ ชื่อเสียงด้านคุณภาพและมาตรฐานการบริการในระดับสากล ยังเป็นปัจจัยส าคัญ
ที่สร้างความสามารถทางการแข่งขันให้กับอตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและท าให้ประเทศไทย
ุ
กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก ข้อมูลจาก Kasikorn Research
่
Center (2012) พบวา มีนักทองเที่ยวชาวตางชาติที่เดินทางเขา มารับบริการด้านสุขภาพเฉลี่ย 1.2 ล้านคน
ตอปี สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ ากว่า 100,000 ล้านบาท
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ได้ให้ค าจ ากัดความของค าว่า
“สุขภาพ” (Health) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1948 ว่า เป็นเรื่องที่มิได้จ ากัดอยู่แค่ความปราศจากโรคทางกาย
์
แต่ยังเน้นย ้าถึงภาวะการด ารงอยู่ที่ดี ในแง่มุมทางด้านอารมณและสังคมรวมด้วย ซึ่งการนิยามค าว่าสุขภาพ
ั
เช่นนี้ ได้ถูกยึดถือเป็นแนวทางในการพฒนางานสุขภาพด้านการปรับสมดุลกาย-ใจ ในช่วงกลางศตวรรษที่
20 แม้ว่าความคิดเรื่องการปรับสมดุลกาย-ใจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค แต่มีแนวทาง
ที่คล้ายคลึงกัน คือ การปรับสมดุลกาย-ใจมีทิศทางที่หลากหลาย (Multi-dimensional) จะต้องกระท า
แบบองค์รวม (Holistic) มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาอย่างต่อเนื่อง การรักษาสุขภาพจึงเป็นเรื่อง
ิ
ปัจเจกบุคคล แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับอทธิพลจากสภาพแวดล้อม และเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม
รับผิดชอบ